วันที่ 24 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่าความคืบหน้าคดี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ถูกคุมขังในเรือนจำกลางพัทลุงนั้น เคยมีพฤติกรรมเสแสร้งแกล้งล้มป่วยเหมือนกับการก่อพฤติกรรมในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก. ภ.จว.พัทลุงได้ประสานงานกับผู้บัญชาการเรือนจำกลางพัทลุง ในการวางมาตรการในการป้องกันการหลบหนีของนายเชาวลิตฯอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการนำตัวนายเชาวลิตฯมายังศาลจังหวัดพัทลุงนั้น จะมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบวางมาตรการการป้อง กันการหลบหนี การชิงตัวนักโทษมาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายในการหลบหนีในครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 5 คน ซึ่งน่าจะมีอาวุธปืนและอาวุธปืนสงครามไว้อย่างครบมือในการหลบหนีในครั้งนี้ด้วย และเชื่อว่าในขณะนี้นายเชาวลิตฯน่าจะมีการระดมลูกน้องเก่าๆทั้งในและนอกจังหวัด พร้อมอาวุธปืนครบมือมาไว้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอาวุธปืนสงครามเนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนยิงปืนแม่นยำ ตร.ชุดไล่ล่าจึงห้ามประมาทโดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามนายเชาวลิตฯเคยแกล้งป่วยในศาลมาแล้ว และเคยเข้ารักษาตัวใน รพ.พัทลุงมาแล้ว 2 ครั้ง โดยในขณะที่นอนพักรักษาตัวในรพ.พัทลุงนั้น ทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก. ภ.จว.พัทลุง ได้ส่งกำลังตำรวจชุดสวาทของ ภ.จว.พัทลุง เข้าไปควบคุมดูแลนายเชาวลิตฯตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นายเชาวลิตฯไม่สามารถหลบหนีออกจากโรงพยาบาลพัทลุงได้ และในช่วงที่นายเชาวลิตฯได้ถูกนำตัวไปควบคุมในเรือนจำกลางนครศรี ธรรมราชนั้น ทาง จนท.เรือนจำกลางพัทลุง และตำรวจ ก็ได้เตือนให้ จนท.เรือนจำกลางนครศรี ธรรมราช อย่าได้ประมาทในการควบคุมตัวนายเชาวลิตฯ จนนำไปสู่การหลบหนีดังกล่าว
ชาวบ้านรายหนึ่ง เผยว่า การหลบหนีออกจาก รพ.มหาราช ของนักโทษคนดังกล่าวเหมือนการปล่อยเสือเข้าป่า ทำให้ชาวบ้านกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากเจ้าตัวมีนิสัยโหดร้าย มีชั้นเชิงแพรวพราวเพราะเคยอยู่ใกล้ชิดกับตำรวจบางราย ดังนั้นกลุ่มตัวแทนชาวบ้านจึงได้ประสานงานไปยัง น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง เขต 1 พรรค ปชป. เพื่อนำเรื่องการหลบหนีออกจาก รพ.มหาราช ของนายเชาวลิตฯไปยื่นกระตูถามรัฐบาลในรัฐสภา พร้อมเรียกร้องให้มีการจับกุมตัวนายเชาวลิตฯพร้อมพวกมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร่งด่วน
และในวันนี้ 24 ตุลาคม 2566 เมื่อเวลา 13.50 น.ทางด้าน พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช. ผบ.ตร. และรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในการไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 16 สภ ร่วมชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจภาค 9 ตำรวจภาค 8 และ ตำรวจกองปราบปราม ร่วม 50 คน มอบให้ติดตามกดดันผู้ก่อเหตุช่วยเหลือ ในการหลบหนีของเสี่ยแป้ง และดำเนินการสืบหาข่าวที่กบดานของเสี่ยแป้ง ทั้งในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง ขณะรายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบความเคลื่อนไหวของรถยนต์ของกลุ่มผู้ต้องหาเสี่ยแป้ง เป็นรถยนต์เก๋งชีวิดสีดำ และรถยนต์กระบะสี่ประตู สีขาว ดีแม็ก ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง อำเภอกงหรา และอำเภอศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาข่าวเพิ่มเติมเพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหา และคาดว่ายังไม่หลบหนีออกนอกประเทศ
ขณะที่พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รักษาการ ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ชุดทำงานได้รับการสั่งการจาก ผบ.ตร. และชุดสืบสวนให้ลงมาแบ่งหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมในคดี ก่อนหน้านี้กับท่านผู้การสืบภาค 8 ก็ได้เดินทางไปพื้นที่นครศรีธรรมราช เพื่อแบ่งหน้าที่ทำงานในพื้นที่นครศรีธรรมราชไปแล้ว ที่เป็นพื้นที่ที่ผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนที่พัทลุง ก็คือบ้านของผู้ต้องหา ก็ได้แบ่งหน้าที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว ส่วนพื้นที่เส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องหานั้น ก็ได้มีการตรวจสอบตามที่สื่อ มวลชนรายงาน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ ทีมงานกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนที่ออกข่าวไปทุกจุดก็ได้มีการพิสูจน์ทราบทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาจะยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่นั้น สตูลก็มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องมีการตรวจสอบ แต่จังหวัดสตูลมีทางเข้าออกแค่สองทาง ขณะนี้ทางผู้การจังหวัดสตูล ก็ได้มีการเข้มงวดในพื้นที่แล้ว
และจากประวัติของผู้ต้องหา ที่ติดคุก 20 กว่าปี ก็คือคดีชิงตัวผู้ต้องหา ซึ่งเขาก็ใช้อาวุธร้ายแรง ทางผู้การตำรวจพัทลุง ฯก็ให้ข้อมูลมาว่าชุดนี้ถ้ามีการจับกุม เขาคงจะมีการต่อสู้ ทางทีมผู้การสืบภาค 8 ก็เตรียมชุดไว้ จะไม่ประมาทในการทำงาน และส่วนกรมราชทัณฑ์ตั้งรางวัล 1 แสนบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส แจ้งมาทางผู้การ หรือทางเจ้าหน้าที่ 191 ในพื้นที่พัทลุง ก็ได้ ซี่งทางราช ทัณฑ์ ก็พร้อมสนับสนุนและยังคงไล่ติดตาม และในพรุ่งนี้ท่านรัฐมนตรียุติธรรมจะลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ส่วนทางราช ทัณฑ์ก็ตั้งกรรมการเบื้องต้นย้ายเจ้าหน้าที่สองคนนั้นออกนอกพื้นที่ไปแล้ว สำหรับรถทุกคันในกล้องวงจรปิด ยังคงต้องพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด ยังไม่ทราบว่าใช่ซีวิคสีดำหรือไม่ ส่วนรถกระบะค่อนข้างแน่นอน แต่ของตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่ข่าวว่าการล้างแค้นคนที่ทำให้ติดคุกนั้น ทางเน้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีข้อมูล.
Discussion about this post