จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ได้มีชายวัยกลางคนมีอาการคลุ้มคลั่งบริเวณ ถ.กาญจนาภิเษก ก่อนถึงตลาดสมบัติบุรี มีพฤติกรรมชอบเอาก้อนหินปาใส่รถยนต์ที่สัญจรไปมา โดยช่วงวันเกิดเหตุที่ผ่านมาได้มีโชว์เฟอร์แท็กซี่ขับไปบริเวณจุดเกิดเหตุ หลังจากพี่ชายถูกปาหินใส่รถยนต์ จึงขับแท็กซี่ไปสอบถามปรากฎว่าได้มีปากเสียงกันจนกระทั่งชายคลุ้มคลั่งซึ่งมีอาการเหมือนเมายาวิ่งไปที่รถแท็กซี่แล้วใช้ไม้กระหน่ำตีจนกระจกรถยนต์แตกรอบคันได้รับความเสียหายก่อนเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ปรากกฎว่าพบผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ถูกชายคลุ้มคลั่งรายดังกล่าวก่อเหตุปาหินใส่รถยนต์บริเวณจุดเกิดเหตุ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ พรหมสิทธิ์ อายุ 28 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ ได้นำรถแท็กซี่มาซ่อมกระจกรถที่ร้านกระจกรถยนต์ ถ. กาญจนาภิเษก แขวง ศาลาธรรม สพน์ เขตทวีวัฒนา จ.กรุงเทพฯ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สภ. บางบัวทองเมื่อคืนที่ผ่านมาวันนี้ตนได้นำรถแท็กซี่ที่ถูกชายคุ้มคลั่งทุบกระจกรถนำมาซ่อมที่ร้านซ่อมกระจกรถยนต์ในกรุงเทพ ซึ่งตนได้รับความเดือดร้อนมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้จึงได้ไปกู้ยืมเงิน เพื่อนำมาซ่อมกระจกรถยนต์เองก่อน โดยค่าเสียหายในวันนี้ตนต้องจ่ายเงินจำนวน 7,000 บาท ส่วนความคืบหน้าในคดีหลังจากที่แจ้งความเมื่อคืนที่ผ่านมาทางตำรวจยังไม่ได้ติดต่อต้นมา คาดว่ายังจับตัวไม่ได้ สุดท้ายแล้วอยากจะให้ทางผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายเพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุลักษณะนี้กับคนอื่นอีก ซึ่งตนทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ผู้เสียหายหลายคน มีพฤติกรรมคล้ายเมายาอาละวาด ซึ่งพักอยู่กับพ่อแม่แต่ไม่สามารถคุมพฤติกรรมชายคนนี้ได้ อยากจะฝากตำรวจให้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถสะพานลำลี หน้าปากซอย อิหม่ามซาฟีอี ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้เข้าพบนางเซาะ อ่อนหวาน อายุ 75 แม่ของนายนิด ผู้ก่อเหตุวัย 42 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กล่าวว่า เหตุเกิดช่วงเย็นคนขับรถแท็กซี่ขับมา มีปากเสียงกันแล้วไปเคลียร์กันข้างนอกบ้าน แต่ไม่รู้ว่าเคลียร์เรื่องอะไร เขาอยู่ที่บ้านเป็นบางวัน แต่ตอนนี้ประตูปิด ตอนของขึ้นเหมือนคนบ้า เอาไม่อยู่บทจะคลั่งหยิบหินไปปาดรถที่ขับผ่านไปมา แต่กับตนไม่เคยมาด่า ถ้าขอตังค์ไม่ได้ ก็จะกลับออกไป อ้างว่าขอเงิน 20 บาทไปเติมน้ำมัน อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับไปติดคุก เพราะตนไม่มีเงินไปจ่ายค่าเสียหาย รถที่ทำรถพัง บอกอย่าไปตีรถแต่เขาไม่ยอมโมโหคนขับรถแท็กซี่ อยากจะฝากถึงผู้เสียหาย ว่าป้าไม่มีเงินใช้ ค่าเสียหายคงต้องให้ติดคุก เมื่อวานตำรวจมาอยากให้ตำรวจนำตัวไปบำบัด เพราะลูกชายเสพยาตั้งแต่ม 3 จนป่านนี้ 40 กว่าปี เมื่อก่อนทำงานอยู่เทศบาลเมียทิ้งไป 3 ปี น่าจะเครียด ตนไม่รู้จะทำยังไง ตอนพูดรู้เรื่องก็เป็นคนดี คนเคยบอกให้ไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เขาไม่ฟังตนกลัวจะโดนหมายจับ จริงๆแล้วไม่เคยมีปัญหากับใคร ถ้าไม่มีใคร มาหาเรื่องก่อน
ส่วนทางนายอนุวัฒน์ หรือนายนิด อ่อนหวาน ผู้ก่อเหตุ ชี้แจงว่า เหตุเกิดตั้งแต่บนถนน นึกว่าจบไปแล้ว เห็นว่ามีผู้หญิงกับเด็กตนไม่อยากยุ่งส่วนที่ขับ มอเตอร์ไซค์ไปปาดหน้ารถเขาจะตนไม่ได้เจตนาตนอยู่ในบ้าน เขาพาพรรคพวกมา 8-9 คน แล้วแท็กซี่มาจอดด้านหน้าบ้าน คนเลยถามว่ามีเรื่องอะไรจะมาหาใคร เขาเดินเข้ามาจะมารุมทำร้าย ตนเลยหลบเข้าไปในบ้าน เขาไม่หยุด คนเลยหาไม้มาป้องกันตัว ตามกฎหมายคือตนโดนรุมทำร้ายที่ตนผิด ทำลายทรัพย์สินยอมรับผิดที่ไปทุบกระจกรถ ในกลุ่มนั้นมีคนหยิบไม้มาจะตี ตนเลยไม้หยิบมาป้องกันตัว ที่บอกว่าตนคลุ้มคลั่ง เนื่อง จากเข้ามา 8 คน ตนเลยต้องสู้ และจะแจ้งความกลับเรื่องบุกรุกทำร้ายร่างกาย ขึ้นไปถึงห้องแถวตน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล 2 คนขึ้นบนห้องแถว อีก 1 คนมาเคาะบ้าน ส่วนที่ตนขว้างหินตนไม่ได้ขว้างรถ แค่ขว้างไล่หมา ที่อยู่ตรงนั้น 4 – 5 ตัว แต่เกิดไปโดนรถ ของเขา ส่วนเรื่องเสพยากับเรื่องคลุ้มคลั่ง เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เอาไว้คุยกันนอกรอบ เอาเรื่องทำร้ายร่างกายกับทุบรถ ซึ่งไม่เกี่ยวกันขอให้แยกแยะด้วย ถ้าตำรวจมาก็พร้อมจะมอบตัวไม่ได้หนีไปไหน ตอนนี้รอหมายเรียก ถ้าเจอหน้ากันพร้อมจะเจอถ้ามีการพูดคุยกันแล้วจบตนก็พร้อมจะจบแต่ถ้าไม่จบตนก็พร้อมสู้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ. บางบัวทอง โดยความคืบหน้าล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. บางบัวทอง ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และได้สอบปากคำผู้เสียหายและพยานในที่เกิดเหตุไปแล้วหลายปาก อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดจะได้ตัวเร็วๆนี้.
Discussion about this post