
วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7รอบพระชนมพรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมืองจ.เชียงใหม่ นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุลส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.)เป็นประธานเปืดโครงการ พบ-ถก-ดัน-ม้ง 2023 เพื่อแลกเปลี่ยน และขับเคลื่อน
แก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดิน มีนายไกรสรจิระพาณิชย์ นายกสมาคมม้ง กล่าวรายงาน นายวิชิต เมธาอนันต์กุล ที่ปรึกษาโครงการ ในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม อ.แม่ริม พร้อมคณะกรรมการเครือข่าย 18 ตระกูลแซ่ และเครือข่าย
เยาวชน ผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วม 450 คน
ทั้งนี้ในที่ประชุม ได้เปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นเรื่องที่ดินและการจัดงานปีใหม่ม้ง พร้อมแนะนำคณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ แถลงวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ แผนงาน เพื่อระดมทุน
สนับสนุนสมาคม และกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง และสังคมทั่วไป
นายเลาฟั้ง กล่าวว่า ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการที่ดินและทรัพยากรสิ่งแวดล้อมแทนราษฎร (ส.ส.) ขอให้กำลังใจและสนับสนุนสมาคม พร้อมผลักดันทุกเรื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินเพราะชาวม้งเป็นเกษตรกรกว่า 80 %และไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน กว่า 90 %ทำให้ถูกจำกัดสิทธิในการประกอบอา
ชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างทางเลือกประกอบอาชีพและยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีกว่าเดิม
“สมาคมม้ง ต้องจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิต 4เรื่อง คือ 1. การรักษาพัฒนาต่อยอดวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. มี
สิทธิในที่ดิน ภายใต้การอนุรักษ์ทรัยากรธธรรมและสิ่งแวดล้อม 3.พัฒนาเศรษฐกิจบนฐานวัฒนธรรม
ภายใต้ระเบียบกฏหมาย ที่ยังเป็นข้อจำกัดสิทธิการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และ 4. การสร้างโอกาสคน
รุ่นใหม่ เพราะกลุ่มชาติพันธ์ มีโอกาสน้อย ต้องสร้างทางเลือกมากขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ ในการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวในอนาคต”นายเลาฟั้ง กล่าว
ด้านนายไกรสร กล่าวว่า การต่อสู้ดิ้นรน เพื่อให้สังคมม้ง และเป็นส่วนหนึ่งสังคมไทย ได้ต่อส้เรียกร้องมายาวนานแล้ว ถือเป็นความสำเร็จระดับหนึ่ง โดยเฉพาะนายเลาฟั้ง ถือเป็น ส.ส.ชาวม้งคนที่ 2 และมีตำแหน่งสูงสุด ในเวทีการเมืองระดับชาติ หลังบรรพบุรุษได้มาอาศัยอยู่ในประเทศ 200 กว่าปี ที่
ผ่านมา และมีชาวม้งที่ประสบความสำเร็จหลายด้าน อาทิ แพทย์ วิศวกรนักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจ นักกีฬานักศิลปะ และนักศึกษาที่เป็นแข่งขัน
World Skills Competition 2022Special Edition ระดับนานาชาติ
“ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ชาวม้งได้สร้างชื่อเสียง และนำพาความเป็นม้งให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่เข้าใจของสาธารณะมากขึ้น ในความสำเร็จดังกล่าวถือมีส่วนช่วยสร้างประวัติศาสตร์ฉบับใหม่ เพราะมีส่วนสำคัญที่ช่วยลบภาพลักษณ์ ที่ถูกตีตราและกักขังมาโดย
ตลอดว่า เป็นเพียงผู้ไร้เดียงสา มีความล้าหลัง เป็นภัยต่อความมั่นคง และเป็นภาระให้กับสังคมมากกว่า การพัฒนาคณภาพชีวิตเชิงสร้างสรรค์ น่ามีส่วนร่วมสร้างประเทศ และสังคมไทยให้มั่นคง แข็งแรงมากขึ้นตามลำดับ” นายไกรสร กล่าว
ทั้งนี้ สมาคมม้ง ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวม้ง 9 ด้านอาทิ ด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยสร้างระบบการบริหารจัดการที่ดี พัฒ
นาระบบข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศสร้างรากฐานทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมให้เข้มแข็ง พร้อมสร้างประชาคมให้น่าอยู่และยั่งยืนด้วย
////////
Discussion about this post