ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแซง โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่น โดยนายแพทย์สุนทร ธีรพัฒนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้ ดร.ไพฑูรย์ พรหมเทศ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ และนายแพทย์ธนพล ศรีวงศ์ ซึ่งเป็นคณะผู้ร่วมวิจัยกับมหาวิทยา ลัยขอนแก่น ภายใต้โครงการวิจัยเพื่อประเมินประสิทธิผลและประสิทธิภาพของรูปแบบการป้องกันโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยวิธีการให้สุขศึกษาและสื่อสารที่ปรับปรุงจากเดิม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระดับชุมชน จังหวัดขอนแก่น เข้าประชุมกับบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแซง ครูโรงเรียนหนองแซงวิทยาคม ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานในชุมชนสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพ ลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ให้ได้ประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิ ผลและมีความยั่งยืน โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์
ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ สาขาวิชาเวชศาสตร์ชุมชน เวชศาสตร์ครอบครัวและอาชีวเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานการประชุม
รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ กล่าวว่า คนไทยเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่งมามากกว่า 20 ปี และมะเร็งชนิดที่เป็นมากที่สุดคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความพยายามที่จะแก้ปัญหานี้มานานมากกว่า 30 ปี แต่ปัญหานี้ยังไม่ลดลงเลย ยังคงมีจำนวนผู้ป่วยนี้เพิ่มมากขึ้น และมักจะตรวจพบเจอตอนที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3-6 เดือนเท่านั้น
“เราจึงควรช่วยกัน แสวงหาความรู้จริง สาเหตุที่แท้จริง วิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลจริง จะได้เกาให้ถูกที่ค้น โครงการวิจัยนี้ จึงได้ค้น คว้าหาความรู้จากทั่วโลก สอบ ถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และสอบถามจากประชาชน เพื่อค้นหาความจริงดังกล่าว โดยเราตั้งใจจะร่วมเรียนรู้กับทุกภาคส่วนในสังคม และตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการเกื้อหนุนให้ทุกฝ่ายทำงานให้ได้ผล เพื่อประโยชน์สูงสุดทั้งแก่ผู้ป่วยและผู้ที่ยังไม่ป่วย ทั้งนี้ พบว่า สาเหตุของโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี มีหลายสาเหตุ ได้แก่ สุรา บุหรี่ ปลาดิบ เนื้อดิบ อาหารและน้ำที่มีสารพิษปนเปื้อน การป้องกันโรคนี้ให้ได้ผล จึงต้องแก้ที่หลาย ๆ สาเหตุ ไปพร้อม ๆ กัน ปัญหาโรคนี้และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ก็จะลดลงด้วย ซึ่งจะเป็นการดำเนินงานในระดับชุมชนที่ได้ผลและยั่งยืน” รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย.
Discussion about this post