เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส. ทล.2 กก.2 บก.ทล. (เพชรบุรี) ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทรัพย์เล็ก ด.ต. ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์ ด.ต.สายัณห์ แก้วอนันต์ และตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ร่วมกันจับกุม นายธีรวิชญ์ (สงวนนาม สกุล) อายุ 39 ปี ชาว จ.นครปฐม และนางสาวปาริชาต (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.นคร ศรีธรรมราช กระทำผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะหรือร่วมกันรับของโจร โดยจับกุมได้ที่บริเวณป่าริมถนนเลียบทางรถไฟ และบ้านพักไม่มีเลขที่ริมถนนเลียบทางรถไฟ ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.66 ต่อเนื่อง 5 พ.ย.66 ขณะที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้านซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.พังงา เมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่าประตูบ้านโดนงัด ภายในบ้านโดนรื้อค้น ตรวจสอบพบว่ามีนาฬิกาและเงินสดจำนวน 10,000 บาท หายไปพร้อมกับกุญแจสำรอง และรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดสีแดง ทะเบียน บพ 7615 ปราจีนบุรี ก็หายไปเช่นกัน จึงประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงดำเนินการสืบสวนสกัดจับคนร้ายทันที

กระทั่งเมื่อ วันที่ 6 พ.ย.66 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับมาตามเส้นทางที่บริเวณ ทล.4 กม.123 ขาล่องใต้ ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงพยายามเรียกให้หยุด แต่เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับหลบหนีทันที กระทั่งมาถึงบริเวณซอยตัน ถนนเลียบทางรถไฟ ในตัวอำเภอปาก ท่อ รถคันดังกล่าวได้เฉี่ยวชนคอกเหล็กและตกหล่มจนไม่สามารถไปต่อได้ คนร้ายในรถจึงตัดสินใจทิ้งรถหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไป และพบ น.ส.ปาริ ชาตนั่งหลบอยู่ในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปากท่อ ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกนั้นว่ามีชายต้องสงสัยเข้าไปหลบภายในบ้าน จึงรีบไปตรวจสอบพบนายธีรวิชญ์ คนขับรถคันดังกล่าว หลบซ่อนอยู่ พร้อมทั้งยังเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าของเจ้า ของบ้านเพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่อีกด้วย จึงควบคุมตัวไว้นำมาสอบปากคำ
เบื้องต้น นายธีรวิชญ์ ยังให้การปฏิเสธและไม่ยอมให้การใดๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบตั๋วจำนำทองเป็นชื่อของ น.ส.ปาริชาต ผู้ต้องหาที่มาด้วยกัน นายธีรวิชญ์จึงบอกว่าตนคบหากับ น.ส.ปาริชาติ และมีนายเต๊ก (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 27 ปี เป็นรุ่นน้องที่รู้จักกันร่วมเดินทางมาในรถคันดังกล่าวด้วยกัน โดยอ้างว่า นายเต๊กเป็นผู้ขับรถกระบะดังกล่าวมารับตนกับแฟนสาวก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ แต่รายละเอียดอื่นๆ ตนไม่ทราบเรื่อง และเมื่อตรวจค้นรถกระบะฟอร์ดคันที่ถูกขโมยมายังพบว่ามีรถจักรยาน ยนต์ ทะเบียน 1กฉ 6343 ประจวบคีรีขันธ์ อีก 1 คันบรรทุกอยู่ท้ายกระบะและมีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เมื่อ 6 พ.ย.66 อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีจึงได้จับกุมตัว นายธีรวิชญ์ และ น.ส.ปาริชาต ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งติดตามตัวนายเต๊ก และผู้ร่วมขบวนการที่ก่อเหตุลักรถรายอื่นมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post