จากกรณีเเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิด ของร้านม2 พี่น้อง ขายโทรศัพท์มือถือทุกยีห้อ ตั้งอยู่บ้านเลขที่137 ถ.ฤาดี ต.อาเนาะรู จ.ปัตตานี จับภาพนาทีคนร้ายเป็นชายใส่เสื้อยืดแขนยาว ขาวดำ ใส่กางแกงสีดำ สวมหมวก และใส่แมสปิดบังใบหน้า พร้อมสะพายกระเป๋าไว้ข้างหน้า เดินเข้ามาภายในร้านดังกล่าว ทำทีมาเลือกซื้อโทรศัพท์มือถืออยู่ในร้าน โดยคนร้ายบอกกับพนักงานว่ามีงบ1 หมื่นบาท จะซื้อมือถือ
เมื่อพนักงานหยิบมือถือที่อยู่ในกล่องมาให้ดูจำนวน 2 เครื่อง พร้อมอธิบายคุณสมบัติ ซึ่งคน ร้ายก็ตัดสินใจว่าจะเอา2 เครื่องนี้ จึงได้หยิบขึ้น และมาบอกให้พนักงานถ่ายรูปก่อน จากนั้นคน ร้ายอาศัยจังหวะเพียงไม่กี่วินาที หยิบมือถือทั้ง2 เครื่องใส่ในกระเป๋า และบอกพนักงานอีกว่า พี่จะเอา2เครื่องนี้ไป ก่อนวิ่งหลบหนีขึ้นรถจักรยาน ยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน พนักงานตั้งสติจึงตะโกนลั่นออกมาว่าขโมยๆ จนทำให้คนในระแวงนั้นได้ยิน และเห็นเหตุการณ์ จึงมีพลเมืองดีเป็นชาย 2 คน วิ่งเข้ามาจับตัวคนร้ายทันที ซึ่งคนร้ายพยา ยามเร่งเครื่องหลบ แต่ก็เสียหลักจนรถล้ม พล เมืองดีจึงจับคนร้ายไว้ได้
หลังเกิดเหตุ เจ้าของร้านจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่จึงเดินทางมา ยังจุดเกิดเหตุ พบคนร้ายดังกล่าวถูกพลเมืองดีคุมตัวไว้ พร้อมหลักฐานมือถือที่ขโมย จากนนั้นได้นำตัวคนร้ายไปยัง สภ.เมืองปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยวันนี้ (10พ.ย.) นางสาวอัสมา ตาเห หนึ่งในพนักงานได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้มีชายรายหนึ่งเข้ามาในร้านสอบถามมือถือยีห้อไอโฟน ตนจึงถามไปว่ามีงบกีบาท ชายรายนี้บอกว่ามีงบ1 หมื่นบาท ตนจึงหยิบเครื่องเอนดรอยมาให้ดู ซึ่งช่วงนั้นพนักงานอีกคนก็สังเหตุเห็นว่าชายรายนี้ผิดปกติ มีการสะพายกระเป๋าไว้ข้างหน้าโดยเปิดซิปทิ้งไว้ ซึ่งมันผิดปกติ จากนนั้นชายรายนี้ได้เอาถุงบางอย่างในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะ และบอกกับพนักงานว่าและกัน แล้วก็หยิบมือถือใส่ในกระ เป๋าทันที ก่อนวิ่งออกจากร้านไป
นางสาวอัสมา เล่าต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เจอแรก ตนตกใจมาก อยู่ในอาการหมึนงง แต่โชคดีที่มีพลเมืองดี2 คนเข้าช่วยจับ ถ้าไม่ได้พลเมืองดีตนก็เชื่อว่าตามจับไม่ได้แน่นอน
นางสาวอัสมา เล่าทิ้งท้ายว่า ขอฝากไปยังทุกคน ให้ระมัดระวังตัวอยู่ตลอด หากเจอลูกค้าที่มาแบบแปลกๆก็อยากให้มีการเซฟตัวเองไว้ก่อน และควรมีพนักงานมากกว่า2 คนขึ้นไปจะดีที่สุด และต้องมีสติทุกครั้ง ที่สำคัญหากดูแล้วว่าไม่มีอะไรให้ตะโกนเสียงดังๆ เพราะคำตะโกนจึงทำให้คนที่อยู่แถวร้านตนเข้ามาวิ่งจับ ทั้งนี้ทางร้านก็ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนร้ายรายนี้เป็นที่เรียบร้อย.
Discussion about this post