
วันที่ 10 พ.ย.66 ที่ บจ.อีซูซุนครพนม ถ.นิตโย อ.เมือง จ.นครพนม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา พร้อมสมาชิกคณะกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมแรงงานชาวนครพนม ที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล ด้วยความปลอดภัย โดยได้พบกับ นายอุเทน วงศ์ศรี อายุ 33 ปี อยู่ ม.5 ต.นาราชคววาย อ.เมือง จ.นครพนม นายอุเทนฯ ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เวลา 10 เดือน ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 4-5 หมื่นบาท ทำงานทางด้านการเกษตร อยู่ภาคเหนือของอิสราเลอ ได้เกิดสงครามขึ้น จึงขอเดินทางกลับภูมิลำเนา ด้วยการประสานงานของรัฐบาล ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 มาถึงนครพนมหางานทำ ดูจากบอร์ดของสำนักงานจัดหางาน จ.นครพนม บจ.อีซูซุนครพนม ได้รับสมัครพนักงาน ตนได้มาสมัครงาน ทางบริษัทฯ รับตนเข้าเป็นพนักงานขาย และที่ปรึกษาการขาย ตนเคยผ่านงานด้านนี้มาก่อน รายได้ประมาณเดือนละ 1-2 หมื่นบาท คิดว่าพออยู่ได้ และไม่คิดกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก ทำงานอยู่บ้านดีกว่า ฝากถึงเพื่อนแรงงานที่อิสราเอลว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ควรกลับบ้าน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้วฯ กล่าวว่า ในการเดินทางมาเยี่ยมแรงงาน เป็นกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา ได้ติดตามเกี่ยวกับแรงงานอิสราเอล มีแรงงาน สามหมื่นกว่าคน รัฐบาลได้ช่วยแรงงานให้ได้กลับมา ตอนนี้ก็ได้มาดูเรื่องการจ่ายเงินสวัสดิการให้กับแรงงาน นายอุเทนฯ ถือว่า นำกลับมาอย่างปลอดภัย ได้หางานทำ ขอบคุณที่รัฐบาลได้ช่วยดูแลอย่างเต็มที่ ให้เป็นตัวอย่างของการจัดการที่ดี
จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับนายอุเทนฯ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และคณะกรรมาธิการแรงงานฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมแรงงาน และให้กำลังใจแรงงานอิสราเอล ที่ได้กลับบ้านตามสถานประกอบการต่าง ๆ อีก 3-4 สถานประกอบการ
นายพรชัย กุลตังวัฒนา ประธาน บจ.อีซูซุนครพนม กล่าวว่า ก่อนจะรับพนักงานได้ข้อมูลจากสำนัก งานจัดหางาน จ.นครพนม ต้อง การพนักงานมาเป็น ช่าง และพนักงานขาย ซึ่งบริษัทฯ ขาด แคลน พอดีพนักงานคนนี้ไปดูบอร์ดของสำนักงานจัดหางานฯ แนะนำให้มาสมัครที่บริษัทฯ ในตำแหน่งพนักงานขาย เขาเป็นคนขยัน สู้งาน และเคยทำงานที่บริษัทฯ มาก่อน จึงรับไว้ ยังมีพนักงานอีก 2-3 ราย ที่เคยทำงานที่นี่ ถ้าจะกลับมาก็ยินดีที่รับกลับเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะผู้ประกอบการใน จ.นครพนม ถ้ามีแรงงานกลับจากอิสราเอล หรือประเทศอื่น ๆ ถ้าแรงงานกลับมาก็ช่วยกันพิจารณารับแรงงานเหล่านั้นทำงาน เพราะ จ.นครพนม ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ถ้าพิจารณาแล้วรับได้ก็ให้ช่วยรับ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ในช่วง 3 เดือนนี้ รถขายได้น้อยลง ถ้าคนไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงินที่จะซื้อรถ ซึ่งเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจของเรา จึงขอบอกแรงงานว่า ถ้าสู้ได้ก็สู้ สู้ไม่ได้ก็กลับมาบ้านเรา แม้ค่าแรงจะน้อง แต่ก็เป็นบ้านของเรา.
Discussion about this post