เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วย นางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการ สำนักงานงานพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ ลงพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ และร่วมสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวในพื้นที่แปลงปลูกข้าวของเกษตรกรในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยมี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พลตรีสุชาติ ทุ่มสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 นางณัชชา มีจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ นายณัฐ วังกาวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสวนเขื่อน นายวิทยา กันกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าแดง พร้อมคณะข้าราชการส่วนเกี่ยวข้อง

ในส่วนกรมชลประทาน มีนายสิริพล รักษนาเวศ ผู้อำนวยการ
กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 นายชัยพงษ์ สุขยากร ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 และได้มอบหมายให้นายวรพล เดชสุวรรณ์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสรุปผลการดำเนินการพร้อมร่วมสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว บริเวณพื้นที่รับประโยชน์โครงการฯ แปลงนาข้าวของ นางยุพิน สวนเขื่อน ราษฎรบ้านแม่แคม หมู่ที่ 7 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านแม่แคม ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ผลงานความก้าวหน้าปัจจุบัน 83. 60 % เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีความจุที่ ระดับเก็บกัก 8.55 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตร 7,500 ไร่ ใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนไว้ช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง
นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้มอบพันธุ์ข้าวให้ตัวแทนเกษตรกร จำนวน 2 ราย มอบของที่ระลึกแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอำเภอเมืองแพร่ และผู้อำนวยการ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4
สำหรับความเป็นมาของโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย
เดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะ ตามพระราชดำริ และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะ บ้านลู ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2525 ได้พระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทาน เพื่อให้ราษฎรสามารถมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดู
ฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำเพื่อการอุปโภคตลอดปี กรมชลประทานจึงได้สนองพระราชดำริดำเนินการจัดสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม ในปี 2562-2564 ด้วยงบประมาณ 273,880,170 บาท แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ทางกรมชลประทานได้ของบประมาณดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2567 และการออกแบบเพิ่มเติมในการก่อสร้างทางระบายน้ำให้มีความแข็งแรง
ให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 อ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นั้น เป็นเขื่อนดินแบบแบ่งโซน (Zone Type) พื้นที่รับน้ำฝน 59 ตารางกิโลเมตร ปริมาณฝนเฉลี่ย 1,074.10 มิลลิเมตรต่อปี ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ยต่อปี 14.94 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับสันเขื่อน + 274.00 เมตร (รทก.) ความกว้างสันเขื่อน 9.00 เมตร ความยาวสันเขื่อน 360.00 เมตร ความสูง 35.00 เมตร ความจุที่ระดับน้ำ
เก็บกัก 8.55 ล้านลูกบาศก์เมตร (คิดเป็น 57.23 % ของปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำไว้ช่วยเหลือการเพาะปลูกในพื้นที่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งของราษฎรเพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงให้ดีขึ้น เป็นแหล่งแพร่และขยายพันธุ์ปลาน้ำจืดให้ราษฎรได้บริโภค และเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต โดยมีราษฎรตำบลสวน
เขื่อน ตำบลกาญจนา ตำบลป่าแดง ตำบลบ้านถิ่น ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้ใช้ประโยชน์ มีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 7,500 ไร่ และในฤดูแล้ง 1,000 ไร่
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post