เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาส แรงงานไทย ชาวจังหวัดนครพนมก็ได้เดินทางกลับถึงเมืองไทย ในวันนี้ โดยบรรยากาศการเตรียมการต้อนรับการกลับบ้านที่บ้านของแต่ละคนเป็นไปอย่างจดจ่อรอวันกลับมาของคนสำคัญ
โดยบรรยากาศที่บ้านนายอุทัย แสงนวลแรง งานไทยอีกคนที่ได้รับการปล่อยตัวซึ่งภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านโพนค้อ ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ยังคงเงียบเหงามีเพียง นางจันไทย แสงนวล อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายอุทัย นั่งรอเวลาที่ลูกชายจะได้กลับบ้าน โดยนางจันไทย เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจมากที่ลูกชายจะได้กลับบ้านเหมือนนายแล้วเกิดใหม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้เตรียมการต้อนรับอะไรถ้าลูก ชายได้กลับมา ก็จะทำพิธีผูกแขนรับตามประเพณี

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายนัฐพร อ่อนแก้ว หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกจับตัวประกันพบนายธวัชชัย อ่อนแก้ว ซึ่งกำลังสาละวนปัดฝุ่นล้างรถกระบะคนโปรดของนายนัฐพรลูกชายเพื่อที่จะเตรียมรับการเดินทางกลับมาของลูกชาย และได้กล่าวถึงว่าตนรู้สึกดีใจที่ลูกชายกำลังกลับมาถึงบ้านไปเย็นวันนี้และสิ่งแรกจะทำในสิ่งแรกที่ได้เจอหน้ากัน คือขอกอดลูกชายให้หายคิดถึงเป็นสิ่งแรกก่อน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่อว่า หลังจากจากลูกชายได้รับการปล่อยตัวมานั้นได้มีการติดต่อกันอย่างไรบ้างหรือไม่ซึ่งนายธวัชชัยได้กล่าวว่าตนได้ video call คุยกับลูกชายโดยตลอดทราบว่าน้ำหนักได้ลดลงไปถึง 8 กิโลกรัม สภาพความเป็นอยู่ในช่วงถูกจับกุมตัวจากกลุ่มฮามาส นั้นไม่ได้อาบน้ำตลอดระยะเวลาที่ถูกจับกุม นอกจากนี้กลุ่มฮามาสยังใช้พานท้ายปืนกระแทกเข้าบริเวณข้างลำตัว ซึ่งก็ยังรู้สึกมีอาการเจ็บอยู่ในขณะนี้
ขณะที่นางทองพูน อ่อนแก้วแม่ของนายณัฐพร กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า หลังจากเฝ้ารอฟังข่าวความคืบหน้าตลอด ร่วมเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาด้วยความกังวล ตนดีใจจนบอกไม่ถูกพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทุกหน่วยที่ให้การช่วยเหลือจนกระทั่งได้ลูกชายกลับ และถัดจากนี้ก็จะได้เตรียมจัดงานรับขวัญของลูกชาย ก่อนจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์และบนบานศาลกล่าวตามที่ต่างๆไว้หลายแห่ง
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายบุดดี แสงบุญ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 4/5 ม.12 บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นคร พนม ซึ่งเป็นแรงงานอีก 1 คน ที่ได้รับการปล่อยตัว ทราบจากเพื่อนบ้านว่า มารดา และน้องสาว ได้ไปรอรับที่สนามสุวรรณภูมิ แล้ว.
Discussion about this post