
วันที่ 10 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จากนายเบญจพล รวงผึ้งทอง ว่าขณะนี้บริเวณบ้านของแม่ตนเองกำลังได้รับความเดือดร้อน มีน้ำท่วมขังเวลาฝนตก ไม่มีทางน้ำออก ส่งผลกระทบต่อนางอมรรัตน์ รวงผึ้งทอง ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 90 ม.5 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ
พื้นที่ดังกล่าวเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ โดยมีบ้านพักของ นางอมรรัตน์ รวงผึ้งทอง อยู่บริเวณด้านขวามือจากทางเข้าประมาณ 50 เมตร ถัดไปเป็นบ้านพักคนงาน มีจำนวนกว่า 10 ห้อง ตลอดทั้งซ้ายมือและขวามือ โดยนายเบญจพล ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูทางระบายน้ำ ที่โดนปิด และอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมขัง โดยก่อนเข้าไปด้านใน ได้มีโอกาสได้สอบถามความเดือดร้อนที่ได้รับจากนางอมรรัตน์
นางอมรรัตน์ รวงผึ้งทอง เล่าว่า เวลาฝนตก ตนเองก็จะนั่งมองน้ำอยู่ตรงนี้เพราะไปไหนไม่ได้ เวลาน้ำท่วมทีหลายวันเลย ตกทีนึงก็จะขังอยู่ 2-3 วัน ต้องสูบออก ตนอยากให้ทางหน่วยราชการมาช่วยเปิดทางน้ำให้ เพราะไปดูแล้วข้างหลังเป็นที่สาธารณะ แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว เขาถมดินไปแล้ว
นายเบญจพล รวงผึ้งทอง เล่าว่า ตรงนี้เป็นทางระบายน้ำเดิม พอฝนตกน้ำมันจะไหลออกทางนี้ได้ ซึ่งตอนนี้มันมีถนนเส้นนี้มากั้นปิดทางน้ำเลย ฉะนั้นทางน้ำของตนจะไม่มีทางออก ตนพยายามเอารถแบคโครมาขุด แต่พอขุดปุ๊บมันกลายเป็นทำลายถนนของเขา ซึ่งเขาก็จะเอาผิดกับเราตนก็เลยคิดว่าถ้างั้นคงทำอะไรไม่ได้ ได้แจ้งทางอบต.มาขุด เพื่อวางท่อ เขาก็ขุดไม่ได้ เพราะว่าเจ้าของพื้นที่เขาไม่ยินยอม ซึ่งเขาอ้างว่ามีสิทธิ์ในพื้นที่ตัวเอง

เบื้องต้นตนเองได้ติดต่อไปทางอบต. เขาได้มาแก้ไขโดยการเอารถแบคโครมาขุด เปิดทางน้ำให้ ซึ่งมันก็ระบายได้ในระดับนึง แต่ถ้าจะให้แก้ตรงจุด อบต.เขาก็จะขุดถนนเพื่อที่จะวางท่อ แต่เจ้าของที่เขาบอกว่าไม่ยินยอม เหมือนถนนเขาใช้คำว่า บดอัดมาอย่างดี ถ้าไปขุดของเขาๆจะแจ้งความจับ ทางอบต.ก็เลยทำอะไรไม่ได้ ส่วนเรื่องสนามตอนนี้เขาไม่ได้ทำแล้ว ได้พักโครงการไปทำที่อื่นแล้ว เพราะตรงนี้มันมีปัญหา ซึ่งตรงนี้มันก็เป็นที่ของตน เขารุกเข้ามาได้ยังไง แม่ตนอยู่ตรงนั้นทำอะไรไม่ได้หลอก เพราะแม่นั่งรถวิลแชร์อยู่ จะมาดูก็ดูไม่ได้ จริงๆเขามีโฉนด ซึ่งตามหลักโฉนดของเขาที่ตนยืนชี้ตั้งแต่จุดนี้จนไปถึงต้นยูคา อันนี้มันเป็นหลักเก่าของเค้า ซึ่งพอเขาจะทำสนามมันก็จะล้ำที่เรา เขาก็รื้อหลักโฉนดเขาทิ้งหมด ไม่ให้มีหลักฐาน เพื่อที่เขาจะมาเอาพื้นที่ของตน เพราะเขาใช้คำว่าตนไม่มีเอกสาร ซึ่งเอกสารของตนเป็นใบ นค.3 แต่ซึ่งของเขาๆออกโฉนดแล้ว จริงๆพื้นที่ ที่ดินมาชี้ขาดได้ แค่ยืนยันหลักโฉนดว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครช่วยเหลือเลย ตนเองเข้าไปร้องหลายที เข้าไปขอรางวัด ขอทีนึงก็รางวัดที่นึง เสียค่าวัดครั้งละหมื่นๆ พอออกมาก็หายไป ตนไปขอครั้งสุดท้ายน่าจะเป็น 3 ปีที่แล้ว จนตนเองท้อ ไม่ไหวและเดือดร้อนจริงๆ เขาเอาเรื่องเราไปดองเงียบแบบนี้ ไม่ไหว ส่วนเรื่องอิทธิพล ตนเองไม่ทราบ ว่าจริงๆเข้าไปข้างในมันมีอะไร หลังจากร้องเรียนไป คนงานเห็นมีอบต.เข้ามา 2-3 คน จำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่ได้นัดหมายหรือเจอกับตน ไปคุยกับแม่ของตน ซึ่งแม่ก็คุยไม่รู้เรื่อง ตนเองก็ไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่มีการติดต่อมาหาด้วย ซึ่งเบอร์โทรตนมีอยู่แล้วในท้ายหนังสือ
วันนี้ที่ตนมาร้องสื่อเพราะอยากให้เผยแพร่ความเป็นจริงออกไป ว่า ตนเดือดร้อนมากแค่นั้นเอง ไม่มีที่นอน นอนไม่ได้ ตนอยากให้หน่วยราชการเข้ามาช่วย ทำอย่างไรก็ได้ เพราะตนไม่ทราบว่าจะหาทางออกยังไง ให้ทางการเข้ามานำเสนอว่าเราต้องจ้างรถเกรดเดอร์มาขูด วันละหมื่น 2 วันน่าจะขูดพื้นที่ให้บางลง ซึ่งเขาน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ เป็นนายช่างของอบต.พูดขึ้นมา ตนต้องการให้หน่วยงานลงมาดูก่อนว่าจะแก้ไขยังไง แล้วประสานกันสิว่าท่านจะทำแบบไหน แล้วแม่ตนก็พิการด้วย ทำให้ตนทิ้งแม่ไม่ได้ สงสารตนเถอะ เพราแม่ตนก็เป็นแบบนี้ และจะให้ตนทำยังไง
สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางศูนย์ดำรงค์ธรรมได้มีข้อสั่งการให้ทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง แลเรายงานภายใน 30วัน ลงนามโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาทรนายเบญจพลบอกว่าที่บ้านแม่บอกมีคนเข้ามา 2 ครั้ง แต่ไม่เห็นว่าอะไร แล้วออกไป จริง ๆ แล้ว ควรติดต่อประสานงานกับผู้ร้องขอ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการติดต่อจากอำเภอและ อบต. หลังมีข้อสั่งการจากศูนน์ดำรงค์ธรรมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร / สระบุรี 0623601234
Discussion about this post