เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม ร.ต.ท.กิตติภูมิ อรรควิทยานุกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ยิงตัวตาย ที่บ้านพัก พื้น ที่ ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ. เมือง แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบว่าที่บริเวณใต้ต้นมะม่วงข้างโรงรถพบร่างของนายสมประสงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านสวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีเขียว กาง เกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีดำ นอนหงายเสียชีวิตจมอยู่ในกองเลือด ตกปลายเท้าพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อบาเร็ตต้า ตกอยู่ มีนางเกศินี (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ภรรยานั่งกอดศพสามีร่ำไห้อย่างหนัก ญาติต้องช่วยกันพยุงตัวออกมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ทำการชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ตายถูกยิงบริเวณปลายคางทะลุศีรษะด้านบน 1 นัด

จากการสอบสวนเบื้องต้นนางเกศินี ให้การว่า ก่อนนี้สามีเคยเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง และได้เกษียณอายุราชการมาได้ 2 ปี ส่วนตนก็รับราชการครูพึ่งเกษียณเมื่อเดือนกันยายน 2566 ปกติสามีจะมีนิสัยร่าเริง ร่างกายแข็งแรง วางแผนจะไปท่องเที่ยวกันหลังเกษียณ แต่เมื่อ 4 เดือนก่อนสามีมาตรวจพบมะเร็งลำไส้ จึงได้เข้ารักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี โดยมีตนและลูกสาวคนโตเป็นผู้ดูแล และรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว
ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันนี้หมอนัดให้ไปสแกนและตรวจถุงน้ำ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลศูนย์อุดร ธานี ก็พบว่าระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ไม่สามารถเปิดประวัติการรักษาได้ (ตามข่าวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี โดนแฮ็กข้อมูล ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะกู้ข้อมูลอยู่) หมอให้กลับไปเอาแผ่นซีดีที่บันทึกประวัติการรักษาที่บ้าน เพื่อนำมาเปรียบเทียบอาการของโรค ซึ่งตนและลูกสาวก็พาสามีกลับมาบ้าน และหาแผ่นซีดีเจอแล้วนำใส่กระเป๋าเตรียมไว้ และเตรียมข้าวกลางวันให้สามีกิน ซึ่งสามีเดินออกมาจากบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด เมื่อเดินออกมาก็พบสามียิงตัวตายแล้ว
นายวรรณบุญ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี น้องภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายได้ซื้อปืนเองก่อนเกษียณ เพื่อนำมาป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหลังเกษียณอายุราชการ แต่ผู้ตายมาป่วยมะเร็งลำไส้ก่อน ตนกับผู้ตายเคยพูดกันว่า ถ้าอาการป่วยมีอาการดีขึ้นแล้วตนจะพาซ้อมยิง แต่ก็มาเกิดเหตุก่อน ซึ่งปืนกระบอกนี้ยังไม่เคยนำออกมาใช้เลย
น.ส.อารีรัตน์ ปัญญาสมาพร อายุ 46 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ฝั่งตรงข้ามบ้านเกิดเหตุ กล่าวว่า รู้จักและสนิทกับครอบครัวผู้ตาย หลังเกษียณอายุราชการ ก็มาป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งอยู่หน้าร้าน ส่วนแม่กำลังดูหนังซีรี่ส์ในมือถือ ต่อมาได้ยินดังคล้ายประทัดดังปัง 1 ครั้ง นึกว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด จึงมองดูรอบบ้านก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่นานก็เห็นรถพยาบาลขับมาจอดหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงรีบตามไปดู ก็พบภรรยาผู้ตายนั่งร้องไห้กอดศพผู้ตาย และได้เปิดกล้องวงจรปิดภายในร้านดู ซึ่งได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัดในเวลา 12.38 น. อีกประมาณ 20 นาทีรถพยาบาลจึงขับเข้ามาบ้านที่เกิดเหตุ
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายเครียดจากการป่วยโรคมะเร็งลำไส้ เมื่อรักษาจนมีอาการดีขึ้น แต่ได้ตรวจพบถุงน้ำอีก ทำให้มีอาการเครียด จึงตัดสินใจใช้ปืนที่ซื้อมายิงตัวตายเพื่อหนีโรคร้าย จึงสั่งให้อาสากู้ภัยนำศพไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยา บาลศูนย์อุดรธานี เสร็จแล้วจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป.
Discussion about this post