ที่จังหวัดน่าน ผู้เสียหายร้องผู้สื่อข่าวหลังแจ้งความกว่า 5 เดือนคดีไม่คืบถูกพนักงานไฟแนนซ์ธนาคารดัง (CIMB) หลอกออกรถมือสองรถก็ไม่ได้ รู้อีกทีไฟแนนซ์ตามทวง เรื่องแดงธนาคารไล่ออกพนักงานไฟแนนซ์ ไปแจ้งความคดีไม่คืบ กลับถูกไฟแนนซ์ฟ้องร่วมฉ่อโกง ทั้งที่ตกเป็นผู้เสียหาย คนพิการรับเบี้ยคนพิการออกรถได้ 2 คัน ผู้เสียหายอึ้งหนักถึงว่าคดีช้า ผู้ต้องหาบอกจ่ายใต้โต๊ะไปแล้ว

ผู้เสียหาย นางสาวเจนจิรา รินกระโทก หรือแนน ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ขอช่วยตีแผ่เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูก นายต็อป นามสมมุติ อดีตเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ธนาคารดัง เข้ามาตีสนิท แล้วชักชวนว่า จะทำการปล่อยเช่ารถ โดยใช้ชื่อผู้เสียหายกว่า 20 คน เป็นผู้เช่าซื้อรถมือสองกับไฟแนนซ์ธนาคาร ที่นายต็อปทำงานอยู่ เอกสารไม่ยุ่งยากมีแค่สำเนาบัตรประจำตัวและสำเนาทะเบียนบ้าน และไม่ต้องวางเงินดาวน์ หลังทำสัญญาจะได้เงินอีกคันละ 5,000 หรือ 10,000 บาท โดยจะนำรถยนต์ดังกล่าวไปปล่อยเช่า นำค่าเช่ามาจ่ายค่างวดไฟแนนซ์เอง แต่หลักจากทำสัญญาแล้วกลับไม่ได้รับรถ และไม่ส่งค่างวดรถเลย ทวงถามให้เอารถคืนก็บ่ายเบี่ยง จึงเข้าแจ้งความกับถูกเย้ย ว่าจ่ายใต้โต๊ะเรียบร้อย พร้อมส่งสำนวนการสอบสวนมาให้ดู พร้อมบอกคิดว่าจะฟ้องชนะหรือ ข้อความว่า “มีเรื่องจะร้องเรียนคะ เรื่องที่แจ้ง คือโดนหลอกให้ออกรถยนต์ โดยผู้ที่มาหลอก บอกว่าจะเอารถไปปล่อยเช่าและจะรับผิดชอบค่างวดทั้งหมด ผู้เสียหายไม่ได้รับรถและไม่เคยเห็นรถเลยคะ และตอนนี้ผู้ที่มาหลอกไม่จ่ายค่างวดรถ พอมารู้ทีหลังว่าเขาเอาไปจำนำคะ มีผู้เสียหายไม่ตำ่กว่า 20 คะ ตอนนี้เดือดร้อนมากคะเพราะทางไฟแนนซ์ยื่นฟ้องแล้ว และแจ้งความแล้วคดียังไม่คืบหน้าเลย นับตั้งแต่แจ้งความถึงวันนี้ 4 เดือนเกือบจะ 5 เดือนแล้วค่ะ ขอความกรุณาช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณคะ”
ผู้สื่อข่าว จึงลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบผู้เสียหายหลายราย รายแรกชื่อ นายวันชัย ทมิฬเหมย ผู้พิการป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัว ร่างการท่อนร่างไม่มีความรู้สึก ขับถ่ายเองไม่ได้ ต้องใช้รถเข็นตลอดเวลา และต้องดูแลแม่วัย 78 ปี และพ่อวัย 80 ปี โดยมีรายได้จากเพียงแค่เงินเบี้ยผู้พิการและเงินชดเชยจากประกันสังคมเท่านั้น
โดย นายวันชัย เล่าว่า ตนพิการเนื่องจากอุบัติเหตุจากการทำงานบนเสาไฟฟ้าและเกิดอุบัติเหตุตกลงพื้น จนกระดูกสันหลังเคลื่อนร่างการส่วนล่างไม่มีความรู้สึก ทุกวันตนก็จะไปเที่ยวหาเพื่อนอย่างปกติ จนวันหนึ่งได้ไปเจอกับนายต็อป ที่บ้านเพื่อน นายต็อป แนะนำตัวว่าทำงานเป็นพนักงานสินเชื่อไฟแนนซ์รถยนต์ของธนาคารชื่อดัง และภรรยา (ตอนเกิดเหตุยังจดทะเบียนสมรสแต่เรื่องแดงแล้วจึงทำการจดทะเบียนหย่า) ทำงานอยู่สำนักงานขนส่งจังหวัดน่าน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เอ่ยปากชักชวนให้ทำการออกรถมือสองกับตนโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท และยังได้เงินคืนอีก 10,000 บาท โดยจะนำรถไปปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยว นำเงินค่าเช่าเป็นค่าใช้จ่ายส่งงวดไฟแนนซ์ แถมมีเงินเหลือไว้ใช้จ่าย ตนจึงหลงเชื่อโดยใช้เอกสารเพียงสองอย่าง คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน จากนั้นผ่านไป 2 เดือน ทางธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามทวงหนี้ จึงทราบว่านายต็อป หลังจากออกรถไปไม่เคยส่งค่างวดรถเลย เมื่อติดตามทวงถามกับนายต็อป ก็บ่ายเบี่ยงตลอดเมื่อสอบถามหารถให้เอามาคืนไฟแนนซ์ นายต็อป ก็ไม่ตอบว่ารถอยู่ไหนอย่างไร จากนั้นทางไฟแนนซ์ ก็ฟ้องแพ่งให้ตนชดใช้ จึงพากันเข้าแจ้งความว่านายต็อป ร่วมกันฉ่อโกง ผ่านไป 4 เดือนเรื่องไม่คืบ สุดท้ายทางธนาคารกับฟ้องร่วมว่าเป็นผู้ร่วมกระบวนการฉ่อโกงธนาคาร ตนอยากเรียกร้องถึงความยุติธรรมผ่านทางสื่อมวลชน ว่าตัวผมคือผู้เสียหาย แต่กับกลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงธนาคาร ซึ่งตนเป็นผู้พิการจะเอาเงินที่ไหนไปประกันตัว ยิ่งเรื่องที่ไปแจ้งความว่าโดนฉ้อโกงไม่คืบหน้า แล้วมีคลิปการสนทนาว่านายต็อป จ่ายเงินให้ร้อยเวร คิดว่าจะฟ้องชนะคดีหรือแล้วส่งสำนวนการสอบสวนกลับมาให้ดูยิ่งทำให้พวกเรา ผู้เสียหายแล้วตกเป็นจำเลยคิดไปกันใหญ่
ด้าน นายวิชิต กุลสิริ เล่าว่า รู้จักนายต็อปที่บ่อนไก่ ที่ตนชอบไปตีไก่ จากนั้นนายต็อป ได้เข้ามาตีสนิทชักชวนไปดื่มเหล้าหลายครั้ง จนสนิทกัน จากนั้นนายต็อปได้มาขอให้ช่วยจะออกรถยนต์มือสองเพื่อเอาไปปล่อยเช่า โดยจะให้ค่าตอบแทน 10,000 บาท และจะออกค่างวดรถเองโดยเอาจากค่าเช่ารถ ก่อนทำสัญญาก็ตกลงกับนายต็อป แล้วว่าหากส่งไม่ไหวก็ให้เอารถมาคืน ทางเราจะผ่อนต่อเอง แต่ผ่านไปเพียง 3 เดือนก็ถูกฟ้องจากไฟแนนซ์เนื่องจากไม่ส่งค่างวดรถเลย จึงติดตามรถ จนพบว่ารถถูกนำไปจำนำเถื่อนที่จังหวัดแพร่ ตนต้องทำสัญญาเพิ่มเงินเพื่อนำเงินไปไถ่จากที่นายต็อป นำรถไปจำนำโดยผู้เสียหายที่สนิทสนมกับนายต็อป ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่เกิดเหตุ นายต็อป ทำตัวอู้ฟู้มาก เข้าบ่อนการพนันที่เปิดแบบถูกกฎหมายที่เป็นบ่อนไก่ แต่ข้างในสอดไส้เป็นการเล่นพนันไฮโล และวงไพ่ ในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน เสียพนันวันละเป็นแสน กลางคืนก็เที่ยวผับเที่ยวบาร์ แถมมีสาวๆ ควงไม่ซ้ำหน้า ก็ยังคิดสงสัยอยู่ว่านายต็อป เอาเงินมาจากไหน แต่ช่วงนั้นก็ยอมรับว่าเขาเลี้ยงเขาเปย์ จนเป็นลูกน้องเขาคนหนึ่งจนมาถึงวันที่เรื่องแดง อยากจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตปกติ คดีก็ไม่คืบหน้า แถมตกเป็นผู้ร่วมฉ้อโกงอีก ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย
โดยคดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอัยการ มีการเรื่องคู่กรณีทั้งคู่ทั้งจากไฟแนนซ์ และผู้ร้องมาไกล่เกลี่ย ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากไฟแนนซ์ไม่ส่งคนมา จึงเลื่อนไปเรื่อยๆ โดยจะมีการนัดอีกครั้งวันที่ 20 ธันวาคม
ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันได้ส่งสำนวนที่ผู้เสียหายแจ้งความข้อหาฉ่อโกงประชาชน เบื้องต้นส่งสำนวนให้กับทางอัยการเพื่อส่งฟ้องไปแล้วกว่า 20 สำนวน เหลืออยู่เพียง 2 สำนวนที่รอสอบเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาแอบอ้างว่าได้จ่ายเงินให้กับทางร้อยเวรสอบสวน นั้นไม่เป็นความจริง หลังทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวได้เรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามแล้ว ยืนยันว่าได้มีดังที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง โดยการนี้ได้เตรียมเรียกผู้ต้องหามาให้ปากคำและถอนประกัน หากพบว่ามีความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
โทร 0848084888
Discussion about this post