รมช.คมนาคม ตรวจ “สถานีรถไฟหัวหินใหม่” สถานียกระดับแห่งแรกในไทย มั่นใจปีใหม่นี้มีตั๋วรองรับผู้โดยสารไป-กลับทุกระบบ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดิน รถ รฟท. ลงพื้นที่ตรวจติดตามความพร้อมการเปิดเดินรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ที่สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบฯ มี นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ นายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน ให้การต้อนรับ โดย คณะ รมช. คมนาคม ได้ตรวจดูสถานีรถไฟหัวหินหลังเดิมที่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 112 ปี ปัจจุบันกลายเป็น Landmark สถานที่ท่องเที่ยวที่สำตัญอีกแห่งหนึ่งของอำเภอหัวหิน จากนั้นเดินต่อไปยังอาคารสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีเดิมราว 30 เมตร พร้อมรับฟังรายงานสรุปการให้บริการของสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่ ซึ่งเป็นสถานียกระดับที่มีทางเดินใต้สถานีแห่งแรกในประเทศ ไทย ความยาว 4.2 กิโลเมตร

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า รฟท.ได้เปิดใช้งานสถานีรถไฟหัวหินห่งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 15 ธ.ค.66 เริ่มปรับตารางเดินรถใหม่ ทุกอย่างมีความปลอดภัยดี ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะระบบราง ปัจจุบัน กรุงเทพ-หัวหิน ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่ถ้ารวมเวลาจอด ประ มาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นซึ่งเร็วขึ้นมาก จากกรุงเทพ-ชุมพร 6 ชั่วโมง ขณะนี้เหลือเก็บรายละเอียดประมาณ 10-15 % ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญของความปลอดภัย ถือได้ว่าวันนี้คือปลอดภัยแล้ว 100% และในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนใช้บริการเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด โดยกระทรวงคมนาคมได้บูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งระบบล้อ ระบบราง ทั้ง บขส. และ ขสมก. รวมถึงรถไฟฟ้า ทุกระบบจะทำงานร่วมกันเพื่อขนส่งผู้โดย สารไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัยทั้งไปและกลับ เรียกว่าเป็นนวัต กรรมใหม่ของการบริการในปีนี้จะเริ่มปีแรก ซึ่งได้วางแผนและเตรียมการกันมาประมาณสามเดือนแล้วในการบูรณาการร่วมกัน ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ามีรถมีตั๋วกลับบ้านทุกคน ทุกเที่ยว ไม่มีขาดแคลน และถึงบ้านปลอด ภัย กลับมาทำงานใช้ชีวิตปกติได้ทุกคน.