วันนี้ 19 ธันวาคม 2566 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ได้มีชาวบ้านจากหน้องหว้า บ้านกระโพธ์ บ้านไทร และบ้านหนองแคน ตำบลหนองไผ่ล้อม อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ กว่า 100 คน โดยมีนายเจษฎา วารี เป็นตัวแทนชาวบ้าน พากันเดินทางมารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงนายวิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านเรื่อที่ดินที่ทำกิน หลังจากชาวบ้านบ้านมีความต้องการเอกสารสิทธิ์(โฉนด) ในที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของตัวเอง ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพ บุรุษ ที่ก่อตั้งชุมชนมตั้งแต่ปี พ.ศ.2462 จนถึงปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นเรื่องเพื่อทำการออกเอกสารสิทธิ์ มีเจ้าหน้าที่มาทำการรางวัดที่ดินในช่วงปี 2556-2567 แต่ไม่สามารถออกเอกสารโฉนดได้จนถึงปัจจุบัน เพราะที่อยู่อาศัยและที่ทำกินที่เป็นมรกดกตก ทอด อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์โคกหนองแวง เนื้อที่ 1,432 ไร่ โดยได้ยื่นเรื่องเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้เร่งรัดและดำเนินการแก้ไขปัญหาในที่ดินดังกล่าวของประชาชนผู้เดือดร้อนอย่างมีส่วนร่วมและเป็นธรรม

โดยต่อมานายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกด้วยนางสาวศิริรัตน์ ทรัพย์ไพบูลย์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงมาพบและรับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้าน พร้อมทำการชี้แจงทำ ความเข้าใจกับชาวบ้าน ร่วมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีดังกล่าว
โดยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้ข้อมูลถึงที่มาที่ไปและข้อระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการออก นสล.ว่า ที่ดินบริเวณนี้เรียกว่าโคกหนองแกรงสาธารณะ ซึ่งมีประกาศหวงห้ามไว้เมื่อปี 2463 และเมื่อปี 2528 ได้มีการออกรังวัด นสล.ซึ่งในเอกสารไม่มีใครคัดค้าน ประกาศออก นสล.เรียบ
ร้อย ผู้ว่าฯลงนามเมื่อปี 2531 แล้วเมื่อปี 2559 ทางอำเภอและ อบต.ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ก็ได้เสนอโครงการบริหารจัด การใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ตามนโยบาลของรัฐบาลที่จะจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่เข้าอยู่อาศัยในที่สาธารณะ ช่างรังวัดของกรมก็มารังวัดออกให้เมื่อปี 2559 ประมาณ 320 รายที่ยอมเข้าร่วมโครงการ และมีกลุ่มที่ไม่เข้าร่วมโครงการ และกรมฯก็ถามกลับมาว่ายังคัดค้านอยู่ไหม ถ้าประชาชนยังคัดค้านอยู่เขาก็จัดเฉพาะส่วนที่ไม่มีการคัดค้าน 300 กว่าราย
ต่อมาชาวบ้านไปค้นหาหลักฐานพบก็มายื่นขอ ก็เป็นการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ ตอนนี้ก็ให้ที่ดินสาขาย่อยสำโรงทาบจัดส่งเอกสารเข้ากรมฯ เพื่ออ่านแปลภาพถ่ายให้ เมื่อได้ข้อมูลครบก็จะนำเข้าสู่ คพร. แต่ต้องบอกว่าการมี สค.1 แล้วท่านจะได้สิทธิครอบครองทันที สค.1 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แต่อย่างใดถ้าไปแจ้งในที่สาธารณะ ไม่สามารถนำไปออกโฉนดได้ ตามข้อกฎหมาย แต่ถ้าชาวบ้านยื่นเข้ามาเราก็ไม่ตัดสิทธิ เราจะนำเขาสู่ขบวนการให้ แต่ก็อาจจะล่าช้าไปบ้าง เราไม่ได้ละเลย เราจะเร่งรีบสาขาส่วนแยกจัดเอกสารให้ครบแล้วเราจะส่งกรมฯ จะส่งให้เป็นหมู่เลย ไม่ส่งทีละแปลง พี่น้องยื่นมา 40 กว่าแปลงก็จะยื่นไปพร้อมกันเลย ประมาณเดือนมกราคม ปีหน้าก็น่าจะส่งเอกสารมาครบ ก็จะเร่งทำให้ทันที ก็ต้องขอโทษพี่น้องที่อาจจะล่าช้าในส่วนที่ดินแปลงนี้ เพราะยังทำที่อื่นอยู่ ก็เพื่อประโยชน์ของชาวสุรินทร์ทั้งหมดไม่ได้ทำนอกเหนือพื้นที แดละขอรับรองว่า สิทธิของพี่น้องได้อย่างไรก็จะได้ตามเอกสาร แต่จะได้แค่ไหนมันอยู่ที่เอกสารหลักฐานสอบสวนประกอบด้วย ที่ดินจังหวัดสุรินทร์กล่าว
ในการเจรจาชี้แจงและรับเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านในครัง้นี้ โดยทางจังหวัดก็จะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับทราบและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้าน ต่อไป เนื่องจากเป็นการชี้แจงพูดคุยการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว กลุ่มชาวบ้านพร้อมเจ้าหน้า ที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการร่วมกันลงนามบันทึกข้อหารือร่วมกัน เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้านอย่างจริงจัง รวมทั้งหลักเกณฑ์แนวทางขบวนการพิสูจน์สิทธิ์ที่เป็นปัญหา เพื่อให้ผู้มีอำนาจในการปรับปรุงแก้ ไข เพื่อความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post