ความคืบหน้า กรณีนักธุรกิจชื่อดังเมืองกาญจน์ ประมูลเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำยักษ์ สร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในจังหวัดกาญจนบุรี

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บซากเครื่องบินโบอิ้ง 747 พื้นที่ดังกล่าวมีอาณา จักรที่ค่อนข้างใหญ่มากติดภูเขา บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเครื่องจักรและคนงานกำลังทำการปรับพื้นที่ คาดว่าในอนาคตอันใกล้จะเป็นแลนด์มาร์คขนาดใหญ่อีกแห่งของจังหวัดกาญ จนบุรี เข้าไปยืนดูใกล้ๆพบว่า ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่มาก การประกอบอาจต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะมีส่วนแยกเครื่องบินหลายชิ้น เมื่อประกอบเสร็จแล้ว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่เข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

ความเป็นมาของเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำยักษ์ใหญ่นี้….สืบเนื่องมาจากวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ชาวบ้านที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรผ่านไปมา บนถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ฝั่งตรงข้ามห้างไทวัสดุ ต่างต้องตกตะลึง เมื่อพบขบวนคาราวานรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่หลายคันบรรทุกชิ้นส่วนเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำมหึมา จอดอยู่บริเวณริมถนน ปากทางเข้าหมู่บ้านเขาตอง หมู่ที่ 9 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยคาราวานทั้งหมดได้ลำเลียงชิ้นส่วนเครื่องบิน เข้าไปยังบริเวณพื้นที่ ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ศรีถาวร เพื่อนำชิ้นส่วนเครื่องบินเหล่านี้ มาเตรียมประกอบขึ้นมาใหม่

จากการสอบถาม คณะเจ้าหน้าที่ ที่ลำเลียงชิ้นส่วนเครื่องบินเหล่านี้มา ทราบว่า ชิ้นส่วนเครื่องบินเหล่านี มีนักธุรกิจใหญ่ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ที่ยังไม่ขอเปิดเผยตัวตน ได้ไปประมูลเครื่องบินดังกล่าวมา ในราคา 11 ล้านบาท ก่อนจะว่าจ้างวิศวกรและบริษัทขนส่งสินค้า ให้แยกชิ้นส่วนเครื่องบิน นำใส่รถเทรลเลอร์ หลายสิบคัน เดินทางมาส่งที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจะนำมาสร้างเป็นคาเฟ่เครื่องบินแห่งแรกของจังหวัดกาญจน บุรี และหวังจะให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดแลนด์มาร์คสำคัญแห่งใหม่ของจังหวัด

ในการขนย้ายครั้งนี้ ต้องใช้ทีมงานเจ้าหน้าที่และวิศวกรสำรวจเส้นทาง ใช้รถเทรลเลอร์ในการขนย้ายและรถเครนในการประกอบชิ้นส่วน รวมเป็นเงินกว่า 1,000,000 บาท ส่วนค่าประกอบเครื่องขึ้นมาใหม่ ต้องใช้เงินอีกราว 3,000,000 บาท (สามล้านบาท) เมื่อนำไปรวมกับงบประมาณในการซื้อที่ดิน งบการปรับพื้นที่และงบการก่อสร้างสาธารณูปโภคอื่นๆในพื้นที่ คาดว่าต้องใช้เงินกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาท) คาดว่าจะะกอบเครื่องบินลำนี้ให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 2 เดือน

สำหรับ การขนย้ายชิ้นส่วนเครื่องบินเข้าไปยังพื้นที่ว่าง ที่จะสร้างเป็นคาเฟ่เครื่องบินนี้ ต้องใช้เวลาในการขนย้ายจากหน้าปากทางเข้าไปยังพื้น ที่ก่อสร้างนานหลายชั่วโมง เนื่องจากถนนทางเข้าเป็นถนนภายในหมู่บ้านที่ค่อนข้างแคบ จึงต้องมีการคำนวณระยะห่างอย่างดี เพื่อไม่สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน และยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ของทางบริษัท รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี มาช่วยอำนวยความสะดวกจัดการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจราจรกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านไปมา.

ภูริตา สายแก้ว /กาญจนบุรี