วันนี้ 27 ธันวาคม 2566 ที่ กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เป็นประธานเปิดกิจกรรม OPEN HOUSE เปิดบ้านของหน่วยฝึกทหารใหม่ผลัดที่2รุ่นปี 2566 จำนวน 4 หน่วยฝึก ประกอบด้วยหน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153, หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 153, หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153, และหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับทหารใหม่ในโอกาสสำเร็จการฝึกหลักสูตรทหารใหม่ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยกับครอบครัวทหารใหม่ โดยมีผู้บังคับบัญชา ครูฝึกทหารใหม่ และผู้ปกครองร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความภาคภูมิใจ
ภายในงานมีกิจกรรมการมอบรางวัลให้กับทหารใหม่ที่มีผลการทดสอบสมรรถภาพร่างกายดีเยี่ยม รางวัลผลการยิงปืนด้วยกระสุนจริงดีเยี่ยม พร้อมรับวิดีทัศน์กิจกรรมการฝึกทหารใหม่เบื้องต้นทั่วไป, นิทรรศการอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วย และการแสดงของหน่วยฝึกทหารใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการฝึกทหารใหม่

พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 กล่าวว่า วันนี้ยินดีที่ผู้ปกครองได้มาร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความภาคภูมิใจ และประเด็นสำคัญยิ่ง คืออยากให้ญาติของทหารใหม่ได้เห็นพัฒนาการของบุตรหลานของท่าน จากชีวิตความเป็นวัยรุ่น เข้ามาสู่ค่ายทหาร ความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ และความมีระเบียบวินัย โดยการฝึกสอนของชุดครูฝึก และขอให้ท่าน ผู้ปกครองคลายความกังวล เรื่องการใช้ชีวิตของน้องๆ ทหารใหม่ ที่เข้ามารับราชการในหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 ผมขอรับรองและยืนยันกับผู้ปกครองว่า ผู้บังคับบัญชาทุกคนตั้งแต่ท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ตลอดจนกำลังพลทุกนายของหน่วย ต่างมอบความรัก ความห่วงใย ความใส่ใจ และความเมตตาให้กับน้องๆ ทหารใหม่ เปรียบเสมือนเป็นน้องคนเล็กของกองทัพบก เป็นครอบครัวเดียวกัน ที่จะต้องปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกัน เพื่อรับใช้ชาติบ้านเมืองต่อไป
ด้าน นางปรารถนา เถรว่อง ผู้ปกครองของพลทหารใหม่ เปิดเผยว่า ลูกชายของตนสมัครใจเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ ส่วนตัวตนเองรู้สึกกังวลบ้างด้วยความเป็นห่วงลูกชาย แต่เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในรั้วทหาร ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งความมีระเบียบวินัย ความใจเย็น และความเป็นผู้นำมากขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ติดตามความเป็นอยู่ของลูกชาย ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ของกลุ่มครูฝึก ก็โล่งใจ คลายความกังวลได้มาก และภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกได้ทำหน้าชายชาติทหาร ดูแลคนในครอบ ครัว และขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกท่านที่ดูแลลูกชายอย่างดีที่สุด.
Discussion about this post