จากกรณีเพจเฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ที่นี่ศรีสะเกษ # ขออนุญาตินะคะ # เตือนเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวงานกาชาดคืนนี้น่ะคะ ระวังกันด้วย กลุ่มวัยรุ่นชายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนประมาณ 7-10 คน ได้วิ่งเข้ามารุมทำร้ายผม ประ มาณ 5-7 นาที ซึ่งตัวผมได้ไปเที่ยวงานกับแฟน 2 คน กำลังจะออกมาเอารถขับกลับที่พัก เพื่อรีบไปจุดเค้กวันเกิดในวันนี้ วันเกิดผมพอดี ขนาดไม่เคยรู้จักกัน ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันยังกล้าทำขนาดนี้ คนที่จะไปเที่ยวคิดดีๆน่ะครับ” หลังโพตส์ภาพและข้อความได้ไม่นานได้มีชาวเน็ตแห่เข้าไปคอมเม้นแสดงความคิดเห็น พร้อมกับกดไลค์ กดแชร์เป็นจำนวนมาก
ซึ่งผู้เสียหายคือ นายธีระพงษ์ วงศ์กัลยา อายุ 21 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค.66 คาบเกี่ยววันที่ 28 ธ.ค.66 เวลา 00.10 น. ตนได้ไปเดินเที่ยวงานกาชาดประจำปี 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ และเดินซื้อของเพื่อที่จะมากินวันเกิดกับแฟนสาว พอซื้อของเสร็จ ขณะที่เดินหันหลังจะกลับมาที่รถ ที่จอดไว้หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ถนนเทพา อ.เมืองศรีสะ เกษ เพื่อที่จะกลับหอพัก ได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งประ มาณเกือบ 10 คน วิ่งมารุมทำร้ายร่างกายตน รุมกระทืบจนบาดเจ็บ โดยที่ไม่เคยรู้จักกันหรือเคยมีเรื่องกันมาก่อน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.66 พ.ต.อ.อัครพล รัศมี ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องนี้ในสื่อโซเชียล ตนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศราวุฒิ คำน้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมกำลังชุดสืบสวน ออกติดตามไล่ภาพกล้องวงจรปิด จนทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุ 2 คน เป็นชายอายุ 21 ปี ชาว ต.ผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ และอีกคนเป็นชาย อายุ 19 ปี ชาว ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตำรวจได้ตามไปที่บ้านไม่พบตัวทั้งสองคน พบแต่พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุจึงให้แม่โทร ศัพท์ตามลูกและให้ไปพบตำรวจที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ
จนกระทั่งกลางดึกเมื่อคืนวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้เข้าพบตำรวจ รับว่าก่อเหตุทำร้ายผู้เสียหายจริง รายดังกล่าวจริง และเคยมีเรื่องเป็นคู่อริกันมาก่อน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันทำ ร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ก่อนที่จะปล่อยตัวไปเนื่องจากเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง
ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติด ตามตัวมาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
Discussion about this post