เมื่อเวลา16.00 น.วันที่ 1 มกราคม 2567 ร.ต.อ. สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว. สอบสวน สภ. ย่อยนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ขณะนี้กำลังลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงหลายหลัง เหตุเกิดที่บ้านขาว หมู่ 1 ต.บ้านขาว หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ นายกเทศ บาลตำบลนาข่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บ้านขาว เทศบาลตำบลนาข่า อบต.นากว้าง อบต.หมูม่น อบต.กุดสระ นำรถดับเพลิงไปที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านใช้บินโดรนถ่ายภาพมุมสูงและชาวบ้านบางรายก็ถ่ายคลิปตอนไฟลุกไหม้ บางส่วนช่วยกันขนทรัพย์สินออกจากบ้าน
เมื่อไปถึงที่เหตุพบว่าไฟกำลังลุกไหม้บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น เลขที่ 119 และกำลังลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียง เลขที่ 188 ,156,188 ,148,125 ที่ปลูกสร้างอยู่ติดกัน และเป็นบ้านไม้ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งเจ้าของบ้านและชาวบ้านได้มาช่วยกันขนสิ่งของออกจากบ้าน แต่เนื่องจากทางเข้าเป็นซอยแคบและบ้านก็ปลูกติด ๆ กัน ทำให้รถดับเพลิงเข้าไม่ถึงที่เกิดเหตุ ต้องลากสายดับเพลิงผ่านบ้านที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พบว่าบ้านทั้ง 5 หลังได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด
จากการสอบสวนนางอรุณี ด่านละหาญ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิงให้การว่า บ้านทั้ง 5 หลังนี้เป็นญาติพี่น้องกัน สร้างบ้านอยู่ติดกัน ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งทำกับข้าวเย็นอยู่ชั้นล่าง ต่อมาได้ยินเสียงดังเหมือนเคาะไม้ อยู่บนชั้น 2 หลายครั้ง ไม่ก็ไม่ได้เอะใจ ไม่นานก็เสียงตู้มระเบิดขึ้น ตนจึงวิ่งขึ้นไปดูก็พบว่าไฟไหม้ลามชั้นสองหมดแล้ว ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้มาเรียกให้ตนลงมา และแจ้งจ้าหน้าที่
นางอรุณีฯ กล่าวต่อไปว่าก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ตนฝันว่า ขณะนั่งเล่นกับเพื่อนบ้านแต่ว่าตนนั้นเป็นคนหัวขาด แล้วก็ตกใจตื่นแต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เมื่อคืนนี้ก็ฝันอีกว่าป้าบัวเรียน ซึ่งเป็นญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว มาหยอกล้อด้วยการนั่งดักรออยู่ตรงทางเดินเมื่อตนเดินผ่านมาป้าก็จับขาตนไว้ แล้วตกใจตื่นขึ้นมาจึงได้มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังทั้งสองเรื่อง เพื่อนๆ ก็ต่างพากันปลอบใจว่า ไม่เป็นอะไร ฝันร้ายกลายเป็นดี แล้วก็มาตกบ่ายก็เกิดไฟไหม้บ้าน ก็คาดว่าไฟจะลัดวงจร
นางละไม วงษ์เสียงดัง อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน ผู้เช่าบ้านเลขที่ 188 ซึ่งไหม้เป็นหลังที่สอง เปิดเผยว่า ตนเมาช่าบ้านหลังนี้มาประมาณ 1 ปี อยู่คนเดียว ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงบ้านข้างเคียงร้อง ก็นึกว่าด่าลูกหลาน แต่พอเห็นว่าไฟไหม้บ้านเลขที่ 119 ซึ่งอยู่ติดกัน ก็ได้วิ่งออกมาไปบอกชาวบ้านมาช่วยดับไฟ และแจ้งเจ้าหน้าที่ ตนกลับมาก็เข้าไปขนทรัพย์สิน สิ่งของออกมาไม่ได้ เงินที่ตนเก็บไว้ในบ้าน 7-8 พัน บาท ก็ไหม้ไปด้วย ตนคงจะต้องไปหาเช่าบ้านหลังใหม่
หลังจากนั้น พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ นายก อบต.นาข่า ที่ได้เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการดับเพลิง ด้วย ก็ได้ให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย พร้อมกับได้มอบเงินค่าอาหารเย็นในวันนี้ 3,000 บาท ให้ผู้ประสบภัยทั้ง 5 หลัง โดยมีนางอรุณี บ้านต้นเพลิงเป็นผู้รับมอบ และได้กล่าวว่าบ้านที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ อบต.บ้านขาว ตนได้นำรถดับเพลิงมาสนับสนุน หลังควบคุมเพลิงไว้ได้พบว่ามีบ้านเสียหาย 5 หลัง ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนแนวทางช่วยเหลือ เยียว ยา ผู้ประสบภัย ให้เป็นหน้าที่ของ อบต.บ้านขาว ส่วน เทศบาลตำบลนาข่าจะช่วยสนับสนุน
ตำรวจสันนิษฐานเบื่องต้นว่า ไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะได้ประสานไปยังตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป.
Discussion about this post