นราธิวาส – วันที่ 9 ม.ค.67 พลเอกจตุพร กลัมพสุต ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาย ในภาค 4 ส่วนหน้า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเพื่อบินสำรวจตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบและสำรวจความเสียหายจากการบุกรุกป่าไม้เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและปราบปรามกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ รวมถึงวางแผนในการแจ้งเตือนประชา ชนที่มีบ้านเรือนในพื้นที่ขอบชายเขาที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชา ชนในอนาคต
สำหรับการสำรวจตรวจสอบสภาพป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดยะลาได้ทำการบินสำรวจจำนวน 9 จุด ประกอบด้วย บ้านเขาบือยอ ตำบลบุดี อำเภอเมือง, บ้านบือมัง ตำบลบือมัง อำเภอรามัน, บ้าน กม.26 ใน ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา, บ้านนิคมกือลอง ตำบลตลิ่งชัน, บ้านลูโบ๊ะ และบ้านคีรีลาด, บ้านบายิบน,บ้านเขาน้ำตก ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา, เกาะใหญ่ บ้านสันติ ม.2, บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา และบินสำรวจสภาพป่าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอีกจำนวน 15 จุด

ประกอบด้วย พื้นที่น้ำตกไอร์ดือรง ฝาย ตำบลลาโล๊ะ อำเภอรือเสาะ, ฝายบ้านบระเอ็ง ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ, ฝาย บ้านกูจิงรือปะ ตำบลเฉลิม ,อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ตำบลเฉลิม, ฝาย บ้านตันหยง ต.เฉลิม, บ้านกาหนั๊วะ ต.กะลิซา,บ้านฮูลู ต.กะลิซา อ.ระแงะ, บ้านกาแย ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ,ฝายบ้านยากาบองอ ตำบลศรีบรรพต, ฝาย บ้านไอร์กือเนาะ ตำบลศรีบรรพต, น้ำตกไอร์ซือดอ บ้านตะเคียนต้นเดียว ตำบลซากอ, ฝายบ้านดาฮง ตำบลเชิงคีรี, บ้านปาเนาะกือโต๊ะ ตำบลเชิงคีรี, น้ำตกเชิงคีรี ฝายบ้านตามุงเชิงคีรี อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการบินลาดตระเวนระยะต่ำเพื่อทำการบันทึกภาพและตรวจสอบสภาพภูมิ ประเทศเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล ในการเฝ้าระวังและติดตามทั้งการกระทำผิดกฎหมาย การบุกรุก การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงการเฝ้าระวังแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณขอบชายเขา ซึ่งเสี่ยงได้รับผลกระทบจาก น้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่มได้เมื่อมีฝนตกหนัก อาจส่งผลให้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากฝีมือ ของมนุษย์ที่ได้บุกรุกป่าไม้ทำลายระบบนิเวศ
ทั้งนี้ขอความร่วมมือไปยังประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้มีการแผ้วถางป่าสงวนหรือบุกรุกป่าไม้ป่าสงวนสามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า หมายเลขโทรศัพท์ 1362 หรือสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบและทำการสำรวจยังพื้นที่ดังกล่าวต่อไป.
Discussion about this post