อุโบสถไม้เก่าแก่ อายุ 105 ปี ยังคงสวยงามและเอกลักษณ์โด่ดเด่นด้วยลายชานจั่วเป็นไม้แกะสลักลวดลายรูปเทพพนม และลวดลายราหูท่ามกลางลายพันธุ์พฤกษา นอกจากนี้ยังพบการสลักลายเชิงชายคาของหลังคาทั้ง 2 ชั้น คณะกรรมการวัดเตรียมจัดงานหาทุน ขออนุญาตกรมศิลปากรดำเนินการยกระดับการตั้งของอุโบสถ ให้สูงขึ้นและน้ำไม่ท่วม เพื่อเป็นสมบัติของชาติและของชาวสุรินทร์ สืบไป
วันนนี้(22 มกราคม 2567) ที่วัดปทุมธรรมชาติ ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ คณะกรรการวัด ประกอบด้วย นายอุทัย สำเร็จดี กำนันตำบลแกใหญ่ พระครูประยุตปัญญาภรณ์ เจ้าคณะตำบลแกใหญ่ ตำบลแสลงพันธ์ เจ้าอาวาสวัดประทุมธรรมชาติ นายพิสูตร ดีเลิศ นายกอบต.แกใหญ่ คุณพ่อเพียรพันธุ์ สุเภาดี ปราชญ์ชาวบ้านตำบลแกใหญ่ ได้นำสื่อมวลชน เข้าชมอุโบสถ ที่สร้างจากไม้ประดู่และไม้เค็ง อายุของอุโบสถหลังนี้ก่อสร้างมานาน นับรวมอายุ 105 ปี ซึ่งได้มีการบูรณะซ่อมแซม มาตามลำดับ จนกระทั่งอุโบสถ ยังคงมีสภาพ สวยงาม เป็นไม้ทั้งหลัง แต่พื้นที่ตั้งของอุโบสถ อายุ ก่อสร้างมาและใช้งานด้านพระ พุทธศาสนา ในชุมชนเก่าแก่ บ้านแกใหญ่มานาน 105 ปี พื้นที่ตั้งของอุโบสถ มีสภาพพื้นที่ต่ำลุ่ม ลึก กว่าพื้นที่ตั้งอาคารของอุโบสถหลังใหม่ แม้กระทั้งต่ำกว่าศาลาการเปรียญ และกุฏิที่พักสงฆ์ภายในวัด ในแต่ละปี ช่วงฤดูฝน น้ำก็จะไหลลงมาท่วม พื้นที่ประกอบกิจกรรมภายในอุโบสถ ซึ่งทางคณะกรรมการของวัดต้องการที่จะจัดงาน เพื่อหาทุนในการนำงบประมาณ ขออนุญาตกรมศิลปากรดำเนินการยกระดับการตั้งของอุโบสถ ให้สูงขึ้นและน้ำไม่ท่วม เพื่อเป็นสมบัติของชาติและของชาวสุรินทร์ สืบไป
โดย อุโบสถวัดประทุมธรรมชาติหลังไม้เก่าแก่นี้ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านแกใหญ่ ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ภายในวัดประทุมธรรมชาติ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2460 โดยพระครูธรรมธัชพิมล อดีตเจ้าอาวาส กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตที่ดินโบราณในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนพิเศษ 117 หน้า 9 วันที่ 28 พฤษจิกายน พ.ศ.2545 พื้นที่โบราณสถานประมาณ 4 ไร่ 46 ตารางวา ลักษณะทางสถาปัตยากรรมโบราณ ประเภทอุโบสถประเภทพื้นบ้าน สร้างด้วยไม้หรือเรียกว่า สิม เนื่องในพระพุทธศาสนา กว้าง 7.25 เมตร ยาว 10.60 เมตร หลังคาทรงจั่ว 2 ชั้น ชั้นบนลดมุขด้านหน้า และด้านหลังหน้าบันมีชานจั่วแกะสลักลวดลาย ส่วนบนหลังคาประดับด้วยโหง่ ลำยอง สดุ้งและหางหงส์ไม้ หลังคาชั้นลดแบบปันหยาคลุมตลอดทั้ง 4 ด้าน มุงด้านซีเมนปลายแหลม หน้าต่างและประตูเป็นแบบลูกฝัก เหมือนกับที่ใช่ในบ้านเรือนทั่วไป ตัวอาคารตั้งอยู่บนพื้นดิน มีเสาไม้สี่เหลี่ยมรวม 24 ต้น ด้านหน้าทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีประตูเข้า 2 บาน และหน้าต่างอยู่ตรงกลาง 1 บาน ด้านทิศเหนือและทิศใต้ มีช่องหน้าต่างด้านละ 5 บาน หน้าบันด้านทิศตะวันออกมีชานจั่วเป็นไม้แกะสลักลวดลายรูปเทพพนม ท่าม กลางลายพันธุ์พฤกษา ด้านทิศตะวันตกแกะสลักลวดลายราหูท่ามกลางลายพันธุ์พฤกษา
นอกจากนี้ยังพบการสลักลายเชิงชายคาของหลังคาทั้ง 2 ชั้น ปัจจุบันทางกรมศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้สนับสนุนงบประมาณในบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์พระอุโบสถวัดประทุมธรรม ชาติ ในปีงบประมาณ 2563
อุโบสถไม้เก่าแก่ในวัดประทุมธรรมชาติ นับเป็นสถาปัตยกรรมโบราณ ประเภทอุโบสถประเภทพื้นบ้าน สร้างด้วยไม้หรือเรียกว่า สิม ที่มีอายุถึง 105 ปี และยังคงเอกลักษณ์ที่สวยงาม และเป็นสานที่ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้คัดเลือกวัดประทุมธรรมชาติ บ้านแกใหญ่ ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ให้เป็นอุทยานการศึกษาในวัดประจำปี 2566 ด้วย และพร้อมที่จะให้ผู้คนทั่วไป นักท่องเที่ยวเข้าชมและสัมผัสความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่นในรูปแบบสถาปัยกรรมโบราณงานประเภทอุโบสถประเภทพื้นบ้าน โดยคณะกรรมการวัดเตรียมจัดงานสืบสาน ตำนาน 100 ปี ของดีแกใหญ่ ยกอุโบสถเก่าแก่เป็นจุดขาย เพื่อหาทุนในการนำงบประมาณ ขออนุญาตกรมศิลปากรดำเนินการยกระดับการตั้งของอุโบสถ เพื่อเป็นสมบัติของชาติและของชาวสุรินทร์ สืบไป ระหว่างวันที่ 10 -11 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
พระครูประยุตปัญญาภรณ์ เจ้าคณะตำบลแกใหญ่ – ตำบลแสลงพันธ์ เจ้าอาวาสวัดประทุมธรรมชาติ กล่าวว่า แต่ก่อนวัดตั้งอยู่ที่ธรณีทางทิศตะวันตก ท่านพระครูธรรมทัศน์พิมล หรือหลวงปู่ทุน เจ้าอาวาสวัดประทุมธรรมชาติรูปแรกคือ เจ้าคณะแขวงท่าตูม ใสมัยนั้น ท่านว่าสถานีมันพัฒนาไม่เจริญมันแคบก็เลยพาญาติ โยมย้ายกุฏิของวัด โดยพากันใช้ลอกลากกุฏิหลัวใหญ่ มาตั้ง ในที่ปัจจุบันนี้วัดนี้สร้างปี พ.ศ. 2432 อุโบสถ หลังนี้สร้างปี พ.ศ.2462 ปัจจุบันอายุ 105 ปี ทางวัดกับชาวบ้าน ได้บูรณะอุโบสถ 4-5 ครั้ง จนกระทั่งปี 2540 กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนและสนับสนุงบประมาณในการบูรณะและทางวัดก็ออกส่วนหนึ่ง จนสำเร็จจนถึงปัจจุ บันนี้ โดยใช้ไม้เก่ามาเสริมและสลักลวดลายให้เหมือนเดิมในบางส่วนที่หายไป แต่ส่วนมากจะอยู่ในลักษณะเดิมทั้งสิ้น หากญาติโยม ผู้ที่เข้าชมก็จะได้ลวดลายการสลักไม้ที่สวยงาม รวมทั้งเสาไม้ด้านในที่ยังอยู่คงเดิมทั้งหมดและนมัสการพระพุทธรวมภายในอุโบสถนี้ด้วย
นายพิสูตร ดีเลิศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแกใหญ่ กล่าวว่า ปีนี้ทางคณะกรรมการ ได้มีความคิดรวมกันว่าทางตำบลแกใหญ่จะจัดงานประจำปี หลังจากเราไม่ได้จัดงานใหญ่ในตำบลมาหลายปี ตำบลรอบข้างเขาจัดงานประจำปีกันทุกปี ทางตำบลแกใหญ่ไม่ได้จัดมาหลายปี พอดีตนเองมีความคิดที่จะสมโภชน์โบไม้โบราณหลังนี้ ในวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ใช้ชื่อว่าสืบสาน ตำนาน 100 ปี ของดีแกใหญ่จะมีการจัดงานลักษณะ แสงสีเสียง มีการเดินแบบ มีการประกวดธิดาผ้าไหม เอาของดีของตำบลแกใหญ่มาโชว์และมาขายขอเชิญทุกคนมาเที่ยวชมงานที่ตำบลแกใหญ่ให้สนุกสนาน
นายอุทัย สำเร็จดี กำนันตำบลแกใหญ่ กล่าวว่าตั้งแต่ตนรับตำแหน่งกำนันตำบลแกใหญ่ก้บอกว่าอุโบสถ เก่าแก่หลังนี้ เป็นอุโบสถ หลังโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ได้รับการบูรณะเมื่อ ปีพ.ศ. 2563 ปัจจุบันเห็นว่าโบสถเก่าแก่ อายุ 105 ปี หลังนี้อยู่ในที่ตั้งต่ำกว่า อาคารอื่นๆในวัดซึ่งทางคณะกรรมการวัด ได้นำเสนอทางกรมศิลปากร ที่จะนำอุโบสถขึ้น ยกขึ้นให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุ บันเพื่อเป้นจุดเด่นของตำบลแกใหญ่ของเรา ซึ่งต่อไปท่านที่มาเมืองสุรินทร์ จะได้มาแวะกราบไว้พระพุทธรูปในอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป้นที่เคารพของชาวตำบลแกใหญ่.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post