เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจ.ตากว่า ว่า ทหารบีจีเอฟ(BGF ) หรือ ทหารกะเหรี่ยงพันธมิตรของทหารเมียนมา กลุ่มพันเอกหม่องชิตู่ ผู้ดูแลกลุ่มทุนจีนบ้านฉ่วยโก๊กโก่ บริเวณบ้านวังผา อ.แม่ระ มาด และบ้านวังแก้ว อ.แม่สอด จ.ตาก ได้สั่งการให้ทหารบก.ควบคุมพื้นที่ 2, บก.ควบคุมพื้นที่ 3 และ บก.ควบคุมพื้นที่ 4 นำกำลังพลจำนวนประ มาณ 1,000 คน ที่ไปสนับสนุนฝ่ายทหารเมียนมาในพื้นที่บก.ควบคุมพื้นที่ 1 เขต จ.ผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เพื่อช่วยเหลือทหารเมียนมารบกับฝ่ายต่อต้านที่ประกอบไปด้วย ทหารสหภาพเคเอ็นยู.กองพลน้อยที่ 5 และฝ่ายพีดีเอฟ.หรือ กองกำลังปกป้องประชาชนมานานร่วม 1 ปีแล้ว ล่าสุดได้ถอนตัวออกจากพื้นที่การสู้รบแล้ว โดยมีการใช้รถยนต์กระบะ จำนวนประมาณ 150 คัน เพื่อกลับที่ตั้งหน่วยปกติ หรือ บริเวณที่ตั้งต่างๆในเขตรัฐกะเหรี่ยง การถอนกำลังดังกล่าวทำให้ผู้นำกองทัพเมียนมางุนงง และเกิดความไม่พอใจอย่างมาก ซึ่งอาจจะทำให้ฝ่ายกะเหรี่ยงบีจีเอฟ.กับฝ่ายทหารเมียนมาเกิดการสู้รบกันได้
แหล่งข่าวฝ่ายกะเหรี่ยงเคเอ็นยู.กองพลน้อยที่ 5 แจ้งว่า กองกำลังบีจีเอฟ.ได้ถอนตัวตามมติของผู้บริหารที่กองบัญชาการกองกำลังบีจีเอฟ. โดยขอแยกตัวออกจากทหารเมียนมา เพราะไม่ต้อง การที่จะสู้รบกับชาติพันธุ์กะเหรี่ยงด้วยกันเอง
สำหรับทหารบีจีเอฟ. เดิมเคยอยู่ภายใต้กองทัพเคเอ็นยู. ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2537 กลุ่มทหารกะ เหรี่ยงได้ขัดแย้งกันเองระหว่างกะเหรี่ยงพุทธ กับกะ เหรี่ยงคริสต์ จึงแยกตัวไปตั้งกองทัพใช้ชื่อว่า กะเหรี่ยงดีเคบีเอ(กะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย) ต่อมาได้ไปจับมือกับทหารเมียนมา และเปลี่ยนชื่อเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ บีจีเอฟ. ซึ่งทำหน้าที่เป็นกันชนให้กับทหารเมียนมาตามแนวชายแดน ด้านตรงข้ามจังหวัดตาก ปัจจุบันมีกองกำลังติดอาวุธประมาณ 6,000 นาย กองทัพเมียนมาได้ผนวกให้กะเหรี่ยงบีจีเอฟ.เป็นอาสาสมัครช่วยรบของทหารเมียนมา มีค่าตอบแทนให้ทหารเป็นรายเดือน พร้อมกับอาวุธยุทโธป กรณ์ กับเสบียงอาหาร จนเติบโตเป็นที่น่าเกรงขามสำหรับเจ้าหน้าที่ไทยยุคหนึ่ง.
Discussion about this post