วันที่ 23 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ในพื้นที่ชุมชนเขาคูบา ว่ามีครอบครัวหนึ่งมีผู้เสียขีวิต ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ทราบชื่อต่อมาคือ นาง ประนอม ใยดี อายุ 62 ปี โดยเบื้องต้นทราบว่าก่อนเสียชีวิตต้องคอยดูแลหลานที่ป่วยเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง และพิการมาตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทราบชื่อคือน้องตอง (นามสมมุติ) อานุ 12 ปี ซึ่งตัวของย่าเองนั้นก็ป่วยมีโรคประจำตัว ทั้งความดันสูง และเบาหวาน นอกจากนั้นยังมีโรคอื่น ๆ อีก แต่ด้วยความที่เป็นห่วงหลาน ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรคที่เป็นอยู่เกิดอาการกำเริบขึ้นมา ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต นาง ประนอม ใยดี ได้โทรศัพท์หาลูกสาว ที่อยู่อีกจังหวัดนึงให้มาหา มาอยู่เป็นเพื่อนหลาน เพราะตั้งใจจะไปหาหมอ แต่ไม่ทันได้ไปเกิดมาเสียชีวิตเสียก่อน สำหรับบ้านที่พักอในาศัยอยู่นั้น มีขนาด กว้าง 2.5 เมตร จากหน้าประตูบ้านลึกเข้าไปอีก 3.5 เมตร โดยนอกเหนือจาก 2 ย่าหลานแล้ว ยังมีลูกสาวอยู่ด้วยอีก 1 คน คือนางสาวมิ้งค์ อายุ 32 ปี รวมเป็น 3 คนที่พักอาศัยอยู่ บ้านหลังนี้
หลังจากที่นาง….. เสียขีวิตลงลูกหลาานที่ไปทำงานที่อื่นต่างรีบเดินทางกลับมายังบ้านกัน เพื่อมาหาแม่ แต่ความทุกข์ไม่ได้มีแค่แม่ที่เพิ่งจากไป แต่ลูก ๆ ไม่มีเงินจัดงานศพให้กับแม่ เมื่อนาง บุญมี พรจะโปะ ผู้ช่วนประธานชุมชนเขาคูบาทราบมจึงออกเรี่ยรายเพื่อนบ้าน และชาวย้านในชุมชนเขาคูบา พร้อมทั้งนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแจ้งต่อ นายวินัย นาคนิวงค์ สมาชิกสภาเทศบาบเมืองสระบุรี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่พอค่าใช้จ่าย โดย สท.วินัย แจ้งกับผู้ช่วยประธานขุมชนฯ ว่า เดี๋ยวจะช่วยติดต่อไปยังผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ชอบช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก พร้อมฝากไปบอกให้ไปติดต่อทางวัดไว้ได้เลย เพื่อจัดเตรียมสถานที่ไว้รอเมื่อรับศพแม่กลับมาที่วัด
ต่อมาในช่วงเย็น ลูกได้เดินทางไปรับศพของ นาง ประนอม ใยดี ที่ รพ.สระบุรี หลังจากแพทย์ทำการชันสูตรแล้ว มาทำพิธีทางศาลาที่วัด บรรยากาศเป็นไปด้วความเศร้าโศกเสียใจ ต่อมาทาง นาง บุญมี พรจะโปะ ผู้ช่วนประธานชุมชนเขาคูบา ได้นำเงินที่ได้จากการเรี่ยรายชาวบ้านมาข่วยทำศพ มอบให้แก่ลูก ๆ ของ นาง ประนอม เป็นเงินทั้งสิ้น 30,629 บาท จากนั้น สท.วินัย ได้พา นายประสิทธิ์ อนะมาน ผู้ใหญ่ใจดีที่กล่าวถึงมาพบกับลูกของผู้เสียวิต พร้อมทั้งมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับลูก เพื่อใช้จ่ายระหว่างที่จัดงาน พร้อมทั้งยอกกับบรรดาลูก ๆ ของ นางประนอมว่า ค่าใช้ิจ่ายในส่วนต่าง จะรับเป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องค่าใข้จ่ายเอง พวกลูก ๆ ของนางประนอม รู้สึกซึ้งใจที่นายประสิทธิ์ ทำให้ จึงพากันกล่าวขอบคุณ
ต่อมานานประสิทธิ์ทราบว่าภายในบ้านมีหลานที่มีอาการป่ายอยู่ จึงตั้งใจจะไปเยี่ยม เมื่อไปถึงยังบริเวณบ้านได้เข้าไปพูดคุย และจะทำการประสานกระทรวงพัฒนาสังคมแบะความมั่นคงของมนุษย์ให้เข้ามาดูแลช่วนเหลือ
นาง สุดใจ บุญช่วย (ป้าของเด็ก) เล่าว่า น้องชื่อ ตอง อายุ 12 ปี เป็นเด็กผู้หญิง พิการตั้งแต่กำเนิด ที่บ้านหลังนี้ อยู่ด้วยกัน 3 คน มี ผู้ตาย ลูกสาวที่เป็นทอม และก็หลาน เขาพอมีพอกิน ได้อาศัยเงินลูกและเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ก็ยังไม่พอ ต้องคอยหายืมเงินชาวบ้านมากินประทังชีวิตก่อน แล้วค่อยเอาเงินคนแก่มาใช้หนี้ทีหลัง ตอนที่แกเสียชีวิต แกนั่งตายไปเฉยๆ ซึ่งช่วงนั้นไม่มีคนอยู่ เพราะลูกเขาไปทำงาน กลับมาเจออีกทีก็ตอนเช้าหลังเลิกงาน ซึ่งผู้ตายปิดประตูไว้ ผู้ตายเป็นหลายโรค ไม่ว่าจะ โรคเบาหวาน โรคไขมัน โรคความดัน เป็นเกือบทุกโรค แต่ช่วงระยะหลังมีเลือดออกที่ช่องคลอด ขณะตอนแกเสียชีวิต ลูกหลานก็ไม่มีเงินทำศพ ก็เลยไปบอกประธานชุมชนให้ช่วยเหลือ ได้เงินมาส่วนหนึ่ง และมีผู้ใหญ่ใจดีเข้ามาช่วย ถ้าขาดเหลืออะไรเขาก็จะช่วยทั้งหมด ส่วนชาวบ้านเขาพร้อมใจช่วยกันดีมาก ซึ่งตอนแรกตน ไม่คิดว่าเขาจะช่วยขนาดนี้ ตนคิดแค่ว่าได้มาทำศพนิดๆหน่อยๆก็พอ แต่เขาก็ช่วยเต็มที่
นาย ประสิทธิ์ อนะมาน (เสี่ยเล็ก) กล่าวว่า ตนเองได้ทราบข่าวว่า คุณแม่ ประนอม ใยดี ได้เสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะนอนป่วยแล้วได้เสียชีวิตไปเฉยๆ ตนจึงได้เข้ามาดูแล ว่าจะทำยังไงดี เพราะยังมีเด็กที่พิการอยู่ 1 คน ซึ่งเมื่อวันเด็กตนก็ได้ให้เงินเด็กไป และพึ่งมาทราบข่าวว่าคุณแม่ประนอม ได้เสียชีวิตไป ซึ่งเด็กก็มีปัญหาเพราะว่าเป็นเด็กออทิสติกและพิการ จึงได้เข้าเมาดูแลว่า จะทำอย่างไรดี ทางชุมชนได้รวบรวมเงินกัน เป็นจำนวน 30,000 บาท ส่วนตนเองนั้นได้มอบเงินให้ไป 5,000 บาท ในการช่วยเหลืองานศพของคุณแม่ประนอม ถ้าขาดเหลือประการใด ตนก็พร้อมที่จะดูแล ส่วนในเรื่องของเด็กก็จะให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูแล ตนจะช่วยประสานให้
นาง บุญมี พรจะโปะ อายุ 59 ปี (ผู้ช่วยประธานชุมชน) กล่าวว่า ตนเองในฐานะผู้ช่วยประธานชุมชน เขต1 เขาคูบา 1 มี พี่เล็ก อนะมาน และทีมงานของต๋อง ได้ประกาศช่วยเหลืองานศพของ นาง ประนอม ใยดี ตนเองได้ช่วยเหลือประสานงานเรื่องโรงศพ และเรื่องมูลนิธิสว่าง แล้วได้ช่วยเรี่ยรายจากชาวบ้านเขาคูบา 1 และเขาคูบา 2 มีน้ำใจ บริจาคเงินช่วยเหลือกัน คนละ 100-200 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 30,000 บาท ยังมีพี่เล็ก อนะมาน ช่วยอีกตังหาก 5,000 บาท ตนเองรู้สึกพอใจมากที่ชาวบ้านได้ช่วยเหลือกัน ส่วนศพจะเผาพรุ่งนี้ เอาไว้แค่ 1 คืน เนื่องจากติดวันพระ
หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร / สระบุรี 0623601234
Discussion about this post