
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ฯ พบนายศรีทวน พาทุม ผู้ใหญ่บ้านสบเมาะ หมู่ที่ 4 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้กล่าวว่า ประมาณปี 2563 ก่อนที่จะเกิดการระบาดของเชื้อโควิด ที่บริเวณสบเมาะหรือจุดที่ลำน้ำจางและห้วยแม่เมาะมาบรรจบกัน ทางกลุ่มเด็กๆในหมู่บ้านได้พากันกั้นลำห้วย เพื่อลงเล่นน้ำปรากฏว่าเกิดเป็นกระแสขึ้นมามีคนแห่มาเล่นน้ำเยอะขึ้นทุกวัน จนมีปัญหาตามมาก็คือขยะจำนวนมากจนต้องจ้างคนมาเก็บ และจะห้ามคนไม่ให้มาเที่ยวจุดนี้ก็ไม่ได้ จึงแปรวิกฤตเป็นโอกาสโดยการตั้งซุ้มนั่งเล่นเรียงรายตามลำห้วยประมาณ 3 จุด แต่ยังไม่พอคนยิ่งมาเยอะขึ้นจึงขยายจำนวนซุ้ม และให้ชาวบ้านมาขายอาหารเครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ฯลฯ และขอเก็บค่าบริการรายหัวละ 20 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้ก็นำมาจ้างชาวบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกดูแลสถานที่จอดรถ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและชุมชนบางคนถึงขนาดหมดหนี้สินเลยทีเดียว
ต่อมาได้ขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนด้านการท่องเที่ยวจาก อบต.สบป้าด แล้วเอาเงินจากกลุ่มฯนี้มาสร้างและซ่อมแซมซุ้ม ซึ่งจะเริ่มทำซุ้มหลังจากชาวบ้านว่างจากการทำนาหรือเกษตร ประมาณเดือน พ.ย. – มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝนพอดี ทางหมู่บ้านก็จะรื้อซุ้มและอุปกรณ์ต่างๆออกจากลำห้วยเพราะกระแสน้ำจะพัดไป ส่วนเรื่องปัญหาเรื่องการรุกที่สาธารณะลำห้วยนั้น ได้ไปคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วถือว่าไม่ใช่การบุกรุก แต่เพียงชุมชนทำซุ้มชั่วคราว สร้างรายได้ให้ชุมชน
ปัจจุบันยังไม่ขอการสนับสนุนอะไรจาก อบต.สบป้าด แต่ในอนาคตอาจจะต้องให้ทาง อบต.สบป้าด เข้ามาดูแล เพราะอาจเกินกำลังของชาวบ้านที่จะจัดการเรื่องนี้ สำหรับหมู่บ้านสบเมาะ มีประมาณ 440 หลังคาประชากรประมาณ 1,500 คน อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ 6 กม. ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของ อ.แม่เมาะ รองจากผาหอบ ซึ่งอยู่ในลำน้ำจางเช่นกันแต่เลยจุดนี้ลงไปทาง อ.แม่ทะ และมีน้ำไหลตลอดปี.
Discussion about this post