เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 มกราคม นายไมค์ อายุประมาณ 30 ปี เดินทางมาร้องสื่อมวลชน ขอความช่วยในการตามหาพ่อชาวพม่า และแม่ชาวไทย พ่อแม่เคยอยู่ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ต่อมาพ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อไปแย่งเอาตนมาจากแม่ และพาย้ายไปทำงานโรงงานที่ จ.ระยอง ย่างเข้าวัยรุ่นเข้าไปพัวพันยาเสพติด จนต้องเข้าสถานพินิจ และเรือนจำ รวม 3 รอบ ทั้งที่ไม่มีบัตรประชาชน หรือบัตรต่างด้าว หลังออกจากเรือนจำครั้งสุดท้าย ก็ติดต่อพ่อไม่ได้ ตนจึงมาทำงานที่ จ.อุดรธานี และพบกับภรรยา ซึ่งครอบ ครัวภรรยาดีมาก แต่เพราะไม่มีบัตรประชาชน หรือบัตรต่างด้าว ไปทำงานไม่ได้ ทำให้ต้องตามหาพ่อและแม่ เพื่อทำบัตรประชาชน จะได้ไม่เป็นคนเถื่อน
นายไมค์ เปิดเผยว่า พ่อตนชื่อนายโซ่ วิน อายุ 52 ปี พ่อเคย เล่าให้ฟังว่าแม่เป็นคนไทย ขณะที่ตนอายุได้ 4-5 ปี พ่อกับแม่ได้แยกทางกัน แม่เคยเอาตนไปอยู่ด้วย แต่พ่อได้ไปแย่งตนกลับมา แต่หลังจากแยกทางกันพ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับแม่ให้ตนฟังเลย และย้ายไปอยู่ จ.อุทัยธานี สุพรรณบุรี ซึ่งตนเคยเข้าโรงเรียนไทย เป็นลักษณะนักเรียนฝากเรียน ตนเรียนถึง ป.3 ก็ออกมาทำงานรับจ้าง พอเข้าวัยรุ่นอายุ 15 ปี พ่อก็พาไปทำงานโรงงานยางพาราที่ จ.ระยอง ซึ่งตอนอายุ 16 ปี ตนเกเรเข้าไปพัวพันยาเสพติด จนถูกจับเข้าไปสถานพินิจ ซึ่งตนเป็นคนเถื่อน ไม่มีบัตรประชา ชน หรือบัตรแรงงานต่างด้าวเหมือนพ่อ พอออกจากสถานพินิจตนก็เข้าพัวพันยาเสพติดอีกทำให้เข้าเรือนจำ 2 รอบ

นายไมค์ กล่าวต่อไปอีกว่า จนอายุ 23 ปี พ้นโทษออกมาปี 63 ตนติดต่อพ่อไม่ได้ สอบถามป้าซึ่งได้สามีชาวไทย บอกว่าติดต่อพ่อได้เมื่อ 3 ปีก่อน ตนจึงตัดสินใจมาทำงานที่ จ.อุดรธานี เผื่อจะได้มีสังคมใหม่ จะต้องไม่ไปพัวพันยาเสพติดอีก ทำ งานที่ จ.อุดรธานี เป็นงานรับจ้าง ได้ค่าแรงวันละ 360 บาท และได้รู้จักกับแฟนชาวไทย ตนและแฟนได้ตกลงอยู่กินฉันสามีภรรยา และอาศัยอยู่กับพ่อตาแม่ ยายที่ บ้านโพนทอง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งญาติของภรรยาก็ไม่รังเกียจ ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่การไม่มีบัตรประชาชน และไม่มีบัตรต่างด้าว ทำให้ตนใช้ชีวิตลำบาก ไม่มีใครกล้ารับเข้าทำงาน ตนจึงอยากให้พ่อพาไปหาแม่ เพื่อจะได้ดำเนินการเรื่องบัตรประชาชนให้ตน
“ตอนเป็นเด็ก ตนไม่เคยสนใจเรื่องบัตรประชา ชน ทำให้ตนไม่มีบัตร พอโตขึ้นมาตนจึงได้รู้ว่าบัตรประชาชนนั้นสำคัญกับการใช้ชีวิต ทั้งในเรื่องทำงาน สวัสดิการ รักษาพยาบาล ญาติภรรยาพาไปร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ตนกลับไปที่ อ.ทองผาภูมิ ไปค้นหาเอกสารการแจ้งเกิด หรือไปตามหาพ่อ ให้พาไปหาแม่ เพื่อเอาเอกสารการแจ้งเกิดกับแม่ ไปขอทำบัตรประชาชน แต่อุปสรรคตอนนี้คือ ตนไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน ติดต่อพ่อไม่ได้ แต่มั่นใจว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ หากพ่อเห็นข่าวนี้ ขอให้พ่อหรือคนที่รู้จักกับพ่อ ติดต่อกลับมาหาตนด้วย ผมอยู่ที่ จ.อุดรธานี ถ้าแม่เป็นคนไทย ตนก็อยากมีบัตรประชาชน หากแม่เป็นพม่า ตนก็อยากมีบัตรต่างด้าว ไม่อยากเป็นคนเถื่อนแล้ว ส่วนแม่นั้น ตนมีความทรงจำน้อยมาก ชื่อก็ไม่รู้จัก แต่ถ้าแม่ยังอยู่ เห็นข่าวนี้ และจำหน้าตนได้ ก็อยากให้ติดต่อมาด้วยเช่นกัน
นายไมค์ กล่าวในตอนท้ายว่า พ่อจะติดเหล้า ดื่มเหล้าจัด แต่ตนมีรูปพ่อตอนเป็นเด็ก และบัตรแรงงานต่างด้าวของพ่อ ซึ่งไปขอมาจากป้า หากพ่อเห็นรูปจะจำได้ว่าเป็นรูปพ่อตอนเป็นเด็ก หรือหากพ่อได้ดูข่าวนี้ หรือเพื่อนนายโซ่ วิน ได้ดูข่าวนี้ หากรู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน ให้ติดต่อกลับหานายไมค์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0807318201 ตนจะเดินทางไปพบพ่อทันที
ส่วน น.ส.นพเก้า ไช้ยาเก้า อายุ 41 ปี พี่สาวภรร ยานายไมค์ กล่าวว่า นายไมค์น้องเขยเป็นคนนิสัยดี ขยันทำมาหากิน ไม่เคยสร้างปัญหาให้ครอบครัว ครอบครัวของตนไม่เคยรังเกียจนายไมค์เลย แต่นายไมค์ไม่มีบัตรประชาชน หรือบัตรต่างด้าว ทำให้อยากลำบากในการใช้ชีวิต ตนจึงพาน้องเขยไปขอคำแนะนำจากศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี และตัดสินใจมาพบสื่อ มวลชน ให้ช่วยตามหานายโซ่ วิน พ่อนายไมค์ เพื่อจะได้ทำบัตรจะได้ไม่ต้องเป็นคนเถื่อน.
Discussion about this post