เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 มกราคม 2567 หน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธรธรรมสถาน เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชน ว่ามีเหตุเด็กชายชื่อน้องบอส อายุ 2 ขวบ ติดอยู่ภายในรถประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ขง 9755 อุดรธานี เหตุเกิดริมถนนหนองสาธารณะบ้านหองนาหล่ำ ม.5 ต.สามพร้าว ขณะนี้พ่อและชาวบ้านที่มาตกปลา กำลังหาทางวิธีปลดล็อคประตู รถแต่ยังไม่ได้ผล หลังจากได้รับแจ้งจึงรุดออกไปตรวจให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดพบนายเรืองรอง ปานใจนาม หรือตั้ม อายุ 44 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พ่อของน้องบอส ยืนอยู่หน้ากระจกรถฝั่งคนขับ และมีชาวบ้านที่มาตกปลาจำนวนมาก พยายามร้องบอกน้องบอสให้ปลดล็อคประตู ด้วยความเป็นห่วงแทบใจสลาย เกรงว่าลูกชายจะหมดสติ เนื่อง จากติดอยู่ในรถนานนับชั่วโมงแล้ว อาสากู้ภัยฯพยายามหาอุปกรณ์ที่หมาะสำหรับงัดประตูรถออก แต่ทางพ่อของน้องบอส บอกว่าเคยสอนลูกชายปลดล็อคประตูด้วยตนเอง

ดังนั้นชาวบ้านที่มาตกปลา และอาสากู้ภัยฯ พยา ยามสื่อสารร้องบอกน้องบอสให้ปลดล็อคประตูตามที่พ่อเคยสอนไว้ จนเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที น้องบอสได้กดสวิตช์กระจกประตูหลังด้านซ้ายลงประมาณ 15เซนติเมตร จึงรีบล้วงมือเข้า ไปปลดล็อคประตูรถ พบน้องบอสนั่งอยู่หน้าพวงมาลัย เมื่อร้องเรียกชื่อน้องบอส ก็เดินถือขวดนมออกมาสู่อ้อมกอดของพ่อ และทำตามคำสั่งพ่อที่บอกได้อย่างหน้ารักหน้าชังตามประสาของเด็กที่ไร้เดียงสา ก่อนพ่อพาขึ้นรถขับกลับบ้านไป
นายเรืองรองฯ เปิดเผยว่า ตนมาได้ภรรยาที่ จ.อุดรธานี และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 4 ขวบ คนเล็ก 2 ขวบ วันนี้หยุดงานจึงพาลูกชายคนเล็กมาตกปลา และหายิงปลาในหนองน้ำสาธารณะแห่งนี้ โดยให้น้องบอสอยู่ภายในรถ แต่ลืมกุญแจรถวางไว้ข้างใน ขณะเดินถือหน้าไม้สำหรับยิงปลาอยู่นั้น ประตูรถเกิดล็อค คาดว่าน้องบอสคงไปกดสวิตช์ล็อคประตูรถ ตนจึงวิ่งมาบอกให้ลูกชายปลดล็อคประตูรถ เพราะเคยสอนเขาไว้เป็นประจำ และเขาก็ทำได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าน้องบอสเป็นอะไร ตนร้องบอกให้ลูกอยู่นานนับชั่วโมงก็ไม่สำเร็จ จึงให้ชาวบ้านที่มาตกปลาโทรแจ้งกู้ภัยฯให้มาช่วยเหลือ
“อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ คนที่มีลูกเล็กว่า อย่าปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพังถายในรถ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบตน และขอขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือ ต่อไปคงไม่กล้าทิ้งลูกไว้ในรถตามลำพังอย่างนี้อีกแล้ว”.
Discussion about this post