“ศรีสะเกษ” ทหารไทย-กัมพูชา ล้มวัวเชื่อมความสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ชื่นมื่น

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต. ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำคณะสื่อมวลชน 5 จังหวัศรีสะเกษ ,อุบลราชธานี , บุรีรัมย์ , สุรินทร์ และอำนาจเจริญ เข้าร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์สองแผ่นดิน ไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อกิจกรรม ตุ้มโฮมเยี่ยมชมสัตตะโสม สื่อมวลชนอีสานใต้บ้านเฮา ประจำปี 2567 ร่วมกับทหารกัมพูชา นำโดย พล.ท.อู นาริน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 พร้อมคณะ ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมสานสัมพันธ์สื่อมวลชน 5 จังหวัด เยี่ยมชมจุดประสานงานช่องตาเฒ่า กิจกรรมการพบปะพูดคุย และการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ไทย- กัมพูชา

นอกจากนี้ยังมีการนำเมนูอาหารเด็ด จากทั้ง 2 ชาติ มาแลกเปลี่ยนและปรุงสด ร่วมรับประทานร่วมกัน โดยเมนูอาหารที่ทางฝ่ายไทยนำมา ก็ประกอบด้วย ส้มตำ ผัดผัก แกงเขียวหวานไก่ และไข่เจียว เป็นต้น

ส่วนทางด้านฝ่ายกัมพูชา ได้มีการล้มวัว และนำมาทำเป็นเมนูอาหาร วัวหัน หันสดๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็จ ซึ่งรสชาติของน้ำจิ้ม จะออกรสชาติคล้ายๆกับหลนเต้า เจี้ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก แห่ชิมและถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก ซึ่งเมนูดังกล่าว ถือว่าเป็นเมนูพิเศษ ที่เมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาเยือน จะต้องนำเมนูนี้มาต้อนรับ เพราะถือเป็นงานใหญ่

ทั้งนี้การเปิดช่องตาเฒ่า ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ผู้สื่อข่าวได้เข้าเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมเชื่อม สัมพันธ์ในครั้งนี้ ถือว่าในรอบ 13 ปี หลังเกิดเหตุการณ์ประทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา

ขณะที่ พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยว่า การประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นเราประสานและดำเนินการมาโดยตลอดทุกระดับตั้งแต่ฐานปฏิบัติการของแต่ละหน่วย มีการกินข้าวด้วยกัน เดินลาดตระเวนด้วยกัน มีการฝึกร่วมกัน อันนี้เป็นกิจกรรมการประสานความร่วมมือระหว่างกองกำลังสุรนารีกับกองบัญชา การสมรภูมิรบที่1 ปกติเราก็จัดกันทุกปีเพียงแต่ปีนี้เราเชิญสื่อมาร่วมด้วย อยากให้สื่อมาเห็น

ส่วนเรื่องการตัดโซ่ เปิดประตูเหล็กเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทเขาพระวิหาร นั้น ตอนนี้ในระดับพื้นที่ได้มีการพูดคุยกันดี และต่างฝ่ายต่างต้องการเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมปราสาทเข้า แต่ขึ้นอยู่กับระดับผู้นำประ เทศทั้งระหว่างไทย กัมพูชา พูดคุยกับว่าจะมีแนวทางเปิดหรือไหมเท่านั้นเอง.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน