ฆ่าเผานั่งยางอำพรางคดีหนุ่มใหญ่ชนเผ่าในสวน

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.25 น.ร.ต.อ.จารุกิตติ์ ทนันชัย พงส.สภ. เมืองน่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่า มีคนถูกฆ่า เผานั่งยางอยู่ในสวนของตัวเองบริเวณสวนห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. บ้านห้วยปุก ม.9 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน ,พ.ต.ท.สุรศักดิ์ มีเสาเรือน รอง ผกก (สอบสวน)สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ต.สุวัฒน์ ศรีบุญเรือง สว.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน, พร้อมด้วย ร.ต.อ.อนุชา ประจันตะเสน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานน่าน , นายแพทย์วัชริศ อนันตกาล แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลน่าน แพทย์เวร รพ. น่าน และทีมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลน่าน จนท.กู้ภัยเพชรเกษม เขตเมืองน่าน จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน จำนวนหนึ่ง พร้อมญาติได้ร่วมชันสูตรพลิกศพ ที่ นายเซะเซ็ง แซ่โฟ้ง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 31 บ้านสมุนใหม่ หมู่ 16 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัด น่าน สภาพถูกเผาดำตะโกแต่ยังมีควันไฟอยู่ที่ถูกเผาไหม้หมดแล้ว ห่างจากกระท่อม 5 เมตร จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก ไม่ทราบยี่ห้อปลอกลูกกระสุนทึ่ยิงแล้ว จำนวน 1 ปลอกอยู่ในรังเพลิง ด้ามปืนแตกห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 เมตร พบ สิ่งของ เครื่องใช้ส่วนตัวตกกระจาย ในรัศมี 5 เมตร ในซากกองยางที่ถูกเผา พบกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 3 อันและ เม็ดตะกั่ว จำนวนหนึ่ง และตรวจสอบในกระท่อมพบ จักรยาน ยนต์ ยี่ห้อ honda wave สี ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีอาหารและเครื่องดื่ม มี อาวุธ ปืนแก๊ปยาว ไทยประดิษฐ์ จำนวน1 กระบอก ยางรถสภาพเก่าจำนวน 3 เส้น ถึงได้ถ่ายรูปบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางนงคราญ อายุ 40 ปี ภรรยา เล่าว่า ผู้ตายสามี ได้ออกจากบ้านมาช่วงเช้าเวลาประมาณ 9 โมง ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อมาตัดหญ้า และดูแล สวนส้ม หลังจากนั้น พูดตายไม่ได้กลับมาที่บ้าน ตนเองคิดว่า สามีพูดตาย มานอนพักที่กระท่อม ในสวนที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่สามีเสียชีวิตในครั้งนี้ตนหนึ่งไม่ทราบ
จนกระทั่ง เวลาที่เกิดเหตุของวันนี้นายสัญชัย แซ่โฟ้ง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นหลานชาย ได้มาที่สวนยาง ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้มาหาผู้ตายที่กระท่อม ในสวนแต่ไม่พบ จึงได้เดินดูรอบๆ พบเห็นกองไฟอยู่บริเวณหน้ากระท่อม เมื่อเดินเข้าไปใกล้สังเกต จึงเห็นข้อเท้า ที่ อยู่ในกองไฟ ซึ่งมีควันอยู่ เมื่อมองเข้าไปใกล้ จึงพบ กะโหลกศีรษะ ทที่ถูกไฟไหม้ไม่หมด ซึ่งตนเอง จะโทรศัพท์เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ตนจึงรีบกลับบ้านเพื่อไปแจ้งนายมนต์ชัย ลีไพรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ห้วยละเบ้ายา และญาติพี่น้องให้ทราบดังกล่าว เมื่อแจ้งผู้ใหญ่บ้านแล้วและเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จึง ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้านนางนงคราญ /นายชัยยันต์ และลูกชาย ภรรยาและลูกชายญาติพี่น้องจำนวนหนึ่ง