จากกรณีที่เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 8 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ถิระโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ. เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีชายคุ้มคลั่ง จะทำร้ายแม่ ที่ 227/1 ซอยประชาสันติ 17 ชุมชนเก่าจาน 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนางทองพันธ์ อายุ 64 ปี และนายอุทิศ อายุ 59 ปี พ่อและแม่ของชายดังกล่าวคือนายจักรพงษ์ อายุ 33 ปี ลูกชาย ซึ่งอาละวาดจะทำร้ายแม่ เพราะเสพยาบ้าและดื่มเหล้า ตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองอุดรฯ แล้วส่งไปบำบัดรักษา โดยนางทองพันธ์ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ป้าได้นำเงิน 1,200 บาท มาให้ตนไปไถ่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO ของนายจักรพงษ์ ซึ่งเอาไปจำนำที่ร้าน 1000 บาท แต่นายจักรพงษ์ไม่มีเงินไถ่ จึงยกโทรศัพท์ให้นายอุทิศ ป้าจึงเอาเงินมาให้ไปไถ่มือถือ ตนจึงให้นายจักรพงษ์ ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนตนไปไถ่โทรศัพท์

ความคืบหน้ากรณีนี้ เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่บ้านที่เกิดเหตุ นางทองพันธ์ ฯ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้นายจักรพงษ์ฯ ได้พาตนขับขี่รถ จยย. เอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO ไปจำนำไว้ที่ร้าน ในราคา 1,000 บาท แต่ไม่ยอมให้ตนลงจากรถ และขี่รถกลับมาบ้าน ระหว่างทางนายจักรพงษ์บอกให้ตนเอาเงิน 1,200 บาทให้ จะได้ไปไถ่โทรศัพท์ให้พ่อเอง “เอาเงินมา กูจะไปไถ่เอง” แต่ตนไม่ยอมให้ เพราะรู้ว่านายจักษ์พงษ์จะเอาเงินไปซื้อเหล้าดื่มและซื้อยาเสพ ทำให้นายจักรพงษ์ไม่พอใจ ขี่รถหวาดเสียว พอถึงซอยประชาสันติ 5 ตนจึงกระโดดลงจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือที่ร้านอาหาร และแจ้งตำรวจ
“อยากให้ตำรวจนำลูกชายไปบำบัดยาเสพติด เพราะลูกเสพยาและดื่มเหล้ามานานแล้ว เสพทุกวัน พ่อแม่จะสั่งสอนไม่ได้ จะพูดคำหยาบมีแต่มึงกับกู ต้องระวังตัว”
นายอุทิศ กล่าวว่า เมื่อคืนภรรยาออกไปกับลูก เพื่อไปไถ่โทรศัพท์มือถือที่ลูกชายนำไปจำนำ 1000 บาท แต่ลูกชายไม่มีเงินไถ่ จึงยกให้ตน จึงขอยืมเงินป้าไปไถ่ 1200 บาท แต่ลูกไม่ยอมพาแม่ไปไถ่ แต่จะแย่งเอาเงิน พอแม่ไม่ให้ก็จะทำร้ายแม่ จนต้องวิ่งไปขอความช่วยเหลือ และแจ้งตำรวจ ซึ่งตนเป็นพ่อก็ไม่อยากพูดมาก ให้แม่พูดคนเดียวก็พอ แต่ถ้าลูกยังไม่ปรับปรุงตัว ก็จะไม่ให้อภัย แต่อยากให้ทางการนำตัวไปบำบัด เพราะพ่อกับแม่ต้องระมัดระวังตัว อยู่อย่างหวาดระแวง
ส่วนนายพีระพัฒน์ สิทธิวงศ์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เปิดเผยว่า ขณะเปิดร้านได้มีแม่ทะเลาะกับลูก แม่ได้วิ่งเข้ามาหลบในร้านของตน แต่ลูกชายไม่กล้าเข้ามาในร้าน ลูกชายพยายามบอกให้แม่เอาเงินให้ไถ่โทรศัพท์มือถือ แต่แม่บอกตนว่าอย่าไปเชื่อ มันเสพยาและกินเหล้า แม่หลบอยู่ในร้านตนประมาณ 30 นาที ลูกได้ขี่รถกลับบ้าน ตนจึงโทรเรียกประธานชุมชนมารับตัวแม่กลับบ้านและแจ้งตำรวจ
ต่อมาวันนี้ นายจักรพงษ์ ได้กลับมาบ้าน พร้อมกับกราบเท้าขอโทษนางทองพันธ์ สัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำแบบนี้กับแม่อีก เพราะช่วงนี้ยังอยู่ช่วงคุมประพฤติ พร้อมกับสาบานและ สัญญาด้วยเกียรติของชายชาติทหาร พร้อมกับยก 3 นิ้วขึ้นมาปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก จะเลิกยาเสพติด ส่วนเหล้าจะขอดื่มแต่ผ่อนลง.
Discussion about this post