ไม้พะยูงของหลวงหมดแน่ !! ภาคประชาชน จ.กาฬสินธุ์ แนะตั้งทีมเฉพาะกิจปราบขบวน การมอดไม้พะยูงให้สิ้นซาก !!

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 5 คน ลักลอบตัดไม้พะยูงภายในวัดหนองกุงเหนือ ต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำวจท้องที่ ยังคงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติการณ์ก่อเหตุของคนร้าย ว่าอาจจะเชื่อมโยงกับที่กลุ่มที่เคยเข้ามาลักลอบก่อเหตุที่โรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 28 ม.ค.67 ที่ผ่านมา รวมทั้งลักลอบตัดที่โรงเรียนโนนศิลาสว่างวิทย์ ต.โนนศิลา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ก.ย.66 เช่นกัน ซึ่งเบาะแสที่ได้คือชายฉกรรจ์ 4-5 คน ใช้รถกระบะสีขาวเป็นพาหะในการก่อเหตุ ซึ่งทั้ง 3 จุดยังไม่สามารถจับคน ร้ายได้ ในขณะที่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันบ่อยครั้ง คือก่อเหตุแล้วหลบหนีไป โดยไม่มีรายงานจากฝ่ายไหนว่าจับผู้ต้องหาได้แม้แต่รายเดียว

นายทรงเดช ก้อนวิมล คณะทำงานเครือข่ายธนาคารต้นไม้กาฬสินธุ์ ในฐานะภาคประชาชน ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ยินข่าวคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงและไม้มีค่า ในที่ราชพัสดุและที่เขตป่าสงวนแห่งชาติหลายครั้ง ทั้งขนย้ายของกลางไปได้ และไม่ได้ของกลางไป ซึ่งหลังเกิดเหตุแต่ละครั้งก็ทราบแค่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มาตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจยึดของกลางไว้ ขณะที่คนร้ายหลบหนีลอยนวล ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำซาก วนเวียนอยู่อย่างนี้ โดยหลังจากเกิดเหตุ ก็ตกเป็นหน้าที่ของครู ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ที่จะต้องจัดเวรยามอยู่เฝ้ารักษาความปลอดภัย

นายทรงเดชกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดเหตุบ่อยครั้ง และหลังเกิดเหตุ ก็มีมาตรการจากหน่วยงานรัฐ ให้มีการจัดเวรยาม พอนานหน่อย ไม่มีเบาะแสคนร้ายมาลักลอบตัด ก็มีมาตรการผ่อนคลายออกมา คนร้ายก็อาศัยโอกาสนี้เข้ามาลักลอบตัดอีก อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งในโรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา และวัดหนองกุงเหนือ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่มีเหตุลักลอบตัดในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงด้วย ดังนั้น เพื่อเป็น การป้องกันเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างยั่งยืน จึงอยากให้ทางจังหวัดจัดตั้งชุดเฉพาะติดตามขบวนการมอดไม้ให้จริงจังเสียที โดยมี 3 หน่วยงานหลักคือตำรวจ ปกครอง และกอ.รมน. เข้ามาสนธิการทำงานร่วมกัน ในการปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่า กวาดล้าง ป้องปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ และทรัพยากรธ รรมชาติ เพราะเชื่อว่าทั้ง 3 หน่วยงานมีทั้งทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพ มีข้อมูลในมืออยู่แล้ว ว่ามีบุคคลใดอยู่ในขบวนการมอดไม้ หากทำงานกันอย่างเข้มแข็ง จริงจัง เชื่อว่าไม่ยากที่จะกวาดล้างขบวนการมอดไม้ให้สิ้นซากไป

ขณะที่ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว. กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุระยะหลัง ทั้งเหตุที่โรงเรียนโนนศิลาสว่างวิทย์ โรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา และภาย ในวัดหนองกุงเหนือ เบื้องต้นได้รับราย งานเบาะ แสคนร้ายใช้รถกระบะสีขาวเป็นพาหะ ลักษณะคล้ายกลุ่มเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังดำเนินการแกะรอย ไล่ล่า แสวงหาเบาะแสจากพยานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจเช็คข้อมูลกับโรงพักพื้นที่ติดต่อกัน เพื่อที่จะเชื่อมโยงข้อมูลถึงกลุ่มที่ก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าวอีกว่า กรณีเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงที่ยังเกิดขึ้นนี้ เนื่องจากไม้พะยูงยังเป็นที่ต้องการของพ่อค้านายทุนต่างชาติ ขณะที่คนที่ตัดก็คอยจังหวะที่จะมาลักลอบตัด เพราะขายได้ราคาสูงและได้ค่าจ้างสูง ถึงแม้จะมีการตรวจตราเฝ้าระวัง ก็ยังหาโอกาสก่อเหตุจนได้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังใช้ความพยายามไล่ล่าคนร้ายอย่างเต็มที่ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานมัดตัวให้แน่ชัด เพื่อที่จะสาวให้ถึงพ่อค้านายทุนที่อยู่เบื้องหลังด้วย

“ในส่วนคดีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคุรุชนประสิทธิศิลป์ 3 ต้น และโรงเรียนหนองโนวิทยา อ.ห้วยเม็ก 9 ต้นนั้น ตนลงพื้นที่สอบปากคำพยานคดีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุในโรงเรียนโดยผิดกฎหมาย และซื้อขายโดยผิดกฎหมายเพิ่มเติม ซึ่งทำการสอบปากคำด้วยตนเองทุกวัน ล่าสุดวานนี้ (12 ก.พ.) ทำการสอบปากคำพยานคนใหม่เพิ่มเติมอีก 3 ปาก รวมสอบปากคำพยานตอนนี้ 14 ปาก ซึ่งได้หลักฐานมัดชัดพร้อมส่งสำนวน ปปช.ฟ้องข้าราชการเกี่ยวข้อง 7 คนในเร็วๆนี้ ส่วนกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ทางพนักงานสอบสวน สภ. หนองกุงศรี ก็ยังรอทางนายอำเภอหนองกุงศรีอยู่ ว่าจะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อไหร่ ยังให้โอกาสสักระยะ หากยังไม่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ทางจังหวัดและทางตำรวจ ก็จะได้มีมาตร การดำเนินการกับทางอำเภอหนองกุงศรี ตามระเบียบ และข้อกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าวในที่สุด.