
จากกรณีเมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (20 ก.พ.67) ที่นายภูวลักษณ์ หรือโต้ง อายุ 36 ปี ชาวหนองวัว ซอ จ.อุดรธานี ปีนเสาวิทยุสถานีตำรวจรถไฟอุดรธานี ถนนทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดร ธานี ซึ่งสูง 30 เมตร อ้างเครียดซื้อที่ดินจากญาติจำนวน 2 งาน ราคา 8 หมื่นบาท จ่ายเงินหมดแล้ว แต่ญาติไม่ยอมโอนที่ให้ บ่ายเบี่ยงมา 3 ปี หนำซ้ำยังโดนขู่ฆ่า จึงอยากให้ตำรวจเรียกญาติมาเจรจา โดยมีนายมังกร ผู้เป็นพ่อ และตำรวจเจรจาเกลี้ยกล่อม อยู่ตลอดเวลา
ต่อมาในเวลา 09.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ หลังตำรวจเกลี้ยกล่อมให้ลงมาพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหา จะให้รถกระเช้าขึ้นไปรับ จนเวลา 09.40 น. นายภูวลักษณ์ ได้ปีนลงมาจากเสาวิทยุ เพราะอากาศเริ่มร้อนและหิวน้ำ เมื่อลงมาได้กราบขอ โทษเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนวุ่นวาย ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่และประชา ชนที่มามุงดู แล้วนายภูวลักษณ์ ได้กอดหอมแก้มพ่อ เนื่องจากพ่อไม่ไปไหนเป็นห่วงลูกชายเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ลูกชายคิดสั้น จากนั้นตำรวจจึงนำตัวนายภูวลักษณ์ และนายมังกร สันโดด อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อ ขึ้นรถตราโล่ของตำรวจมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี
เมื่อมาถึง สภ.เมืองอุดรธานีนายภูวลักษณ์ ได้กราบขอโทษอีกรอบกับ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับเปิดเผยว่าเมื่อ 3 ปีก่อน ญาติได้ร้องไห้ไปบอกตนว่าเอาที่ดินไปจำนำ 84,500 บาท แต่ไม่มีเงินไถ่นายทุนจะโดนยึดที่ดิน อยากให้ตนไปไถ่ถอนแล้วจะโอนที่ดินให้ ตนสงสารจึงนำเงินที่ทำงานเก็บสะสมมาให้ญาติไปไถ่ที่ดินออกมา โดยได้เขียนสัญญาขึ้นมีกำนันและสารวัตรกำนันเป็นพยาน เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 65 เมื่อไถ่ถอนที่ดินออกมาแล้วญาติก็ไม่ยอมโอนที่ดินให้ตน บ่ายเบี่ยงมาตลอด 3 ปี แถมยังข่มขู่ฆ่าพ่อตน
“แถมตนได้ยินญาติเจ้าของที่ดินคุยกันว่า ถ้าพ่อตนตายจะได้เงินฌาปนกิจศพ หลังจากนั้นพ่อตนก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ทำให้ตนเข้าใจว่ามีคนวางยาฆ่าพ่อ เพื่อเอาเงินฌาปนกิจศพ วันนี้ตนนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ กลับบ้าน เมื่อมาถึงอุดรธานี ตนได้ไปนอนอยู่ใต้เสาวิทยุ และตัด สินใจปีนเสาวิทยุเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม”
จากการสอบสวนนายภูวลักษณ์ให้การว่า ตนทำ งานเป็นพ่อบ้านดูแลสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งที่กรุง เทพฯ เคยปีนเสาวิทยุมา 2 ครั้ง ครั้งแรก เคยปีนเสาวิทยุที่บ้านเสาเล้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เพื่อเรียกร้องให้แม่ได้บัตรประชาชน วันนี้เป็นครั้งที่ 2 เพราะตนหมดหนทางที่จะเรียกร้อง ญาติไม่ยอมโอนที่ดินให้ แถมญาติชื่อนายเบียร์ ซึ่งเสพยาบ้ายังขู่ฆ่าพ่อของตนอีก อ้างว่าคนบ้าฆ่าคนไม่ติดคุก ตนอยากให้กำนันตำบลหนองอ้อ และสารวัตรกำนัน ช่วยเจรจากับญาติให้ตนด้วย และตนยอมรับว่าก่อนปีนเสาวิทยุได้เสพยาบ้าที่เก็บได้ 2 เม็ด
พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รองผกก.ป.สภ. เมืองอุดรธานี จึงสั่งให้นำนายภูวลักษณ์ไปตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด พบว่าเป็นสีม่วง จึงนำตัวเข้าโครงการบำบัดรักษา พร้อมกับได้ประสานไปยัง สภ.หนองวัวซอ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนายภูวลักษณ์ซื้อที่ดินญาติ ทราบว่า นายมังกร และนายภูวลักษณ์ เป็นคนไม่มีบ้านอยู่ ได้เข้าทะเบียนบ้านกับญาติชื่อน้อย ส่วนแม่ของนายภูวลักษณ์ไปมีครอบครัวใหม่แล้ว บ้านและที่ดินที่นายภูวลักษณ์อ้างว่าไปไถ่ถอนนั้น นายเบียร์ซึ่งเป็นลูกคนที่ขายที่ดินให้ได้เผาบ้านแล้วเหลือแต่ที่ดิน 1 งาน 80 ตรว. ซึ่งจะได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับนายภูวลักษณ์ต่อไป.
Discussion about this post