จากสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ห้วงปัจจุบัน (ตุลาคม 2566 – กุมภาพันธ์2567) ยาบ้า ไอซ์ และเฮโรอีน ยังคงเป็นตัวยาหลักที่มีการค้าและแพร่ระบาด โดยยาบ้าพบการค้าและแพร่ระบาดกระจายในทุกจังหวัดและอำเภอที่สำคัญพบว่านักค้ายังคงมีความพยายามลักลอบส่งออกไปยัง ประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางช่องทางธรรม ชาติในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและจังหวัดสตูล รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การจับกุมยึดทรัพย์ผู้ค้า การจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ให้เข้ารับการบำบัดโดย 30 จังหวัดเป็นเป้าหมายแรก
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมอบแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ผบช.ภาค9 ผอ. ปปส.ภาค9 รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ผอ.สถานพินิจ ผบ.เรือนจำกลางยะลา และ ข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.9 ทุก ภ.จว.ทั้ง 7 จังหวัดกว่า 500 นาย ร่วมรับฟังนโยบาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ด้วยว่า นอกเหนือการจับกุมคือบำบัดและดูแลเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องจัดหางานฝึกทักษะวิชาชีพให้แก่ผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด เน้นการเข้าถึงชุมชน หมู่บ้าน ดูแลกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดโดยใช้ความเข้าใจในสภาพพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรม
วันนี้นักโทษกว่าร้อยละ90 คือคดียาเสพติด อยากให้เรามาหาแนว ทางการแก้ปัญหาเสพติดด้วยกัน จนท.ต้องมีความรับผิดชอบแก้ปัญหาร่วมกัน เราเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ และมีความกรุณาปราณีต่อประชาชน การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถือเป็นหน้าที่ ยาเสพติดทำให้ไม่เกิดความสุขในครอบครัวเพราะฉะนั้นการบำบัดฟื้นฟูให้ชุมชนเข้มแข็งและ การแก้ไขปัญหายาเสพติดคือการมอบความสุขให้ครอบครัวและประชาชน.
Discussion about this post