
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 13 มี.ค. 67 พ.ต.ท.มนูญ เจริญศรี รองผกก. (สอบสวน) สภ.สำนักทอง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุ คน ร้ายก่อเหตุยิงกันเสียชีวิต ภายในแคมป์คนงาน นิคมหลักชัยเมืองยาง ห้องเอฟ3 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ และ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดใหญ่ ซึ่งเป็นแคมป์คนงานที่มุงด้วยสังกะสี จำนวนกว่าร้อยห้อง เข้าไปตรวจสอบห้องเกิดเหตุ กลิ่นเลือดคาวคลุ้งไปทั่วห้องพบศพ ผู้ชายใส่เสืัอยืดสีขาวกางเกงขายาวนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ตรวจเบื้องต้นพบบาดแผลเป็นรอยกระ สุนปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าบริเวณหน้าอกจนพรุน จำนวน 8 รู ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และ หลักฐานของคนร้าย
จากการสอบถามภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การผ่านล่ามว่า ผู้เสียชีวิต เป็นสามีชื่อ นายซอ อู้ อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนม่า เข้ามาทำงานก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.ขณะที่ตนเองกับสามีกำลังนอนหลับอยู่ในห้องเกิดเหตุ ก็ต้องสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เมื่อมีชายฉกรรจ์ 2 คน พังประตูเข้ามาในห้อง แล้วก็ใช้อาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดจ่อที่ตัวสามีแล้วขู่ให้ตนเองอยู่เฉย หลังจากนั้นก็รัวยิงใส่ร่างสามีที่นอนขอชีวิตอยู่บนที่นอน จนแน่นิ่งไป หลังจากนั้นสองคนร้ายก็เดินออกไปอย่างใจเย็นโดยไม่พูดอะไร หลังตั้งสติจึงรีบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุของการฆ่าตนเองไม่ทราบว่าเรื่องอะไร แต่จะมีเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องเงินค่าหัวแรงงานต่างด้าว ที่ทางสามีทำอยู่กับชาวเมียนม่าด้วยกัน
ด้าน น.ส.เน อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนม่า บุตรสาวผู้เสียชีวิต ให้ การทั้งน้ำตา ว่า ตนเองนอนอยู่ในห้องถัดจากห้องเกิดเหตุไป 3 ห้อง คนร้ายได้ถีบประตูเข้ามาในห้องตนเองก่อน โดยเห็นคนร้ายเป็นผู้ชายทั้งหมด 4 คน พอเห็นหน้าว่าไม่ใช่ก็รีบเดินออกไป แล้วสองคนก็เดินไปที่ห้องผู้เสียชีวิตแล้วถีบประตูเข้าไป หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด พอปืนเงียบลง ก็ได้ยินเสียงคนเดินออกไป แล้วก็ได้ยินเสียงรถยนต์ของคนร้ายที่จอดอยู่ตรงทางเข้าด้านหลังแคมป์คนงานขับออกไป
พ.ต.อ.พิรชัช ใจเย็น ผกก.สภ. สำนักทอง จ.ระยอง กล่าวว่า เบืัองต้น จากการตรวจสอบคนร้ายมีทั้งหมด 4 คน ขับรถยนต์เก๋งสีดำมาจอดด้านหลังแคมป์คนงาน แล้วบุกเข้าไปยิงถึงห้องนอน โดยใช้อาวุธปืน ขนาด.38 ซุปเปอร์ ส่วนสาเหตุพุ่งไปที่ประเด็นขัดแย้งเรื่องเงินค่าหัวต่างด้าว แต่ต้องรอสอบสวนโดยต้องใช้เวลาในการสอบสวน เพราะต้องสอบสวนผ่านล่าม พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเข้าออกจุดเกิดเหตุ และ ตรวจสอบประวัติแรงงานสัญชาติเมียนม่าในพื้นที่ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจสะเทือนขวัญ.
Discussion about this post