สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เร่งศึกษาศักยภาพของเชื้อเพลิงชีวภาพปาล์มน้ำมันรอง รับการลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงพื้นที่ จ.นครศรี ธรรมราช และ จ.ตรัง รับฟังผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาเครือข่ายวิสาห กิจชุมชนผลิตน้ำมันปาล์มแดงธรรมชาติมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ที่ต่อยอดผลวิจัยผลิตน้ำมันปาล์มแดงสู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายรับกระแสสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช. เปิดเผยว่า สกนช.ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏัติงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงศึกษาดูงานเกี่ยวกับการวิจัยการผลิตน้ำมันปาล์มแดงบริสุทธิ์เพื่อพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและ SMEs ผลิตน้ำมันปาล์มแดงธรรมชาติและการสร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราชและมีการต่อยอดเป็นรูปธรรมไปสู่กลุ่มผู้ผลิตปาล์ม วิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน จังหวัดตรัง ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาแนวทางการผลิตน้ำมันปาล์มพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายโดยการยกระดับการผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศทลายข้อจำกัดเรื่องผลผลิตล้นตลาด และยังชี้ให้เห็นทางออกของปาล์มน้ำมันที่มีศักย ภาพในการปรับตัวหากต้องยกเลิกการชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ระบุให้ทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพภายในปี 2565 และได้มีการขยายระยะเวลา ลดการชดเชยครั้งแรกออกไปถึงวันที่ 24 กันยายน 2567 ซึ่งกำลังจะหมดระยะเวลาในปีนี้ การลงพื้นที่ศึกษากรณี การปรับตัวของกลุ่มเกษตรกรปาล์มน้ำมันจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อประกอบการพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียในการที่จะขยายระยะเวลาหรือยกเลิกการอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยคำนึงถึงทุกภาคส่วนที่จะได้รับผลกระทบดังกว่า
รศ.ดร. หมุดตอเล็บ หนิสอ อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยา ศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ เปิดเผยว่า การวิจัยเพื่อพัฒนา การผลิตน้ำมันปาล์มแดงบริสุทธิ์มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างมาก ซึ่งแม้ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มแดงจะช่วยดูดซับ ปริมาณผลผลิตปาล์มในตลาดได้ไม่ถึง 10% ของปริมาณปาล์มน้ำมัน ที่ผลิตได้แต่อาจกล่าวได้ว่าเป็นทางเลือกสามารถช่วยเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจากวัฏจักรปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยการวิจัยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีไมโครเวฟเพื่อรักษาคุณค่าของผลิตภัณฑ์ และยังลดระยะเวลาการใช้ความร้อนในการอบผลปาล์ม สำหรับน้ำมันปาล์มแดงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผลปาล์มสด มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ส่งผลดีต่อสุขภาพซึ่งเป็นกระแสที่เกิดการตื่นตัวอย่างมากในปัจจุบัน โดยน้ำมันปาล์มแดง มีสารอาหารที่มีคุณค่าสูงมาก โดยเฉพาะสารเบตาแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีค่าสูงกว่ามะเขือเทศ 300 เท่า และสูงกว่าแครอท 15 เท่า และยังมีวิตามินอี ไม่มีส่วนประ กอบของไขมันทรานส์ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ มีฤทธิ์ต้าน การอักเสบของเซลล์ซึ่งการอักเสบนี้เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดเนื้องอก นอกเหนือจากการพัฒนาเป็นส่วนประ กอบในอาหารแล้ว น้ำมันปาล์มแดงยังต่อยอดเป็นส่วนประกอบกลุ่มเวชสำอาง เครื่องประทินผิว ซึ่งจากผลการวิจัยฯในปี 2563 ได้ยกระดับการผลิตโรงบีบปาล์ม ชุมชนจากเกรดอาหารสัตว์เป็นเกรดเวชสำอาง และในปี 2566 ที่ผ่านมาผลิตน้ำมันปาล์มแดงธรรม ชาติและต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย โดยมีโรงงานต้นแบบอยู่ที่วิสาหกิจชุม ชน แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ท่าสะบ้า จ.ตรัง
นางจันทร์เพ็ญ ชิดเชื้อ ประธานวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน หมู่ที่3 ตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากวงจรของปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำ ชาวสวนปาล์ม ประสบปัญหาผลปาล์มล้นตลาด จึงคิดพึ่งตนเองด้วยการรวม กลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันและจดทะเบียนรูปแบบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำการผลิตน้ำมันปาล์มแดงธรรมชาติ เพื่อสื่อให้ทุกคนทราบว่า น้ำมันปาล์มธรรมชาติมีสีแดงบริโภคได้ เป็นของดีมีวิตามินเอและอีมาก สามารถยกระดับด้านราคาผล ผลิตในอนาคต แก้ปัญหาราคาผลปาล์ม ตกต่ำได้ ซึ่งน้ำมันปาล์มธรรมชาติ (สีแดง) ควรบริโภคเพื่อเป็นอาหารเสริมสุขภาพนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารแบบใช้ความร้อนต่ำ สามารถนำมาเป็นสารตั้งต้นผลิตเป็นสบู่ก้อน สบู่เหลว เจลนวดสมุนไพร เพราะวิตามินต่าง ๆและสารเบต้าแคโรทีนช่วยบำรุงผิว ลดริ้วรอยลดรอยเหี่ยวย่น ลดการอักเสบ โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง ทางกลุ่มมุ่งเพิ่มมูลค่าของน้ำมันปาล์มธรรม ชาติซึ่งมีสีแดงจึงเรียกกันว่าน้ำมันปาล์มแดงและกำลังพัฒนาต่อยอดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์โดยได้ศึกษาดูงานต้นแบบจากมูลนิธิชัยพัฒนาและปัจจุบันได้เข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ด้วยการนำเทคโนโลยีไมรโครเวฟมาใช้ในการอบผลปาล์มช่วยลดระยะเวลาลงได้จำนวนมาก โดยกระบวนการผลิตของกลุ่มเน้นการสกัดอย่างง่ายแบบธรรมชาติไม่ซับซ้อน เพื่อรักษาคุณภาพน้ำมันปาล์มธรรม ชาติ และได้มาตรฐาน อย./GMP ซึ่งขณะนี้ยังวิจัยต่อยอดสู่ผลิต ภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น ซอฟต์เจลผสมสมุนไพร การผลิตเจลลี่สำหรับคนสูงอายุ วิตามินสำหรับเด็ก มาการีนชีวภาพ ตลอดจนนำไปใช้ในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารไก่ อาหารโค เป็นต้น สิ่งที่กลุ่มคาดหวังจะให้เกิดในอนาคตคือ โรงงานน้ำมันปาล์มธรรมชาติต้นแบบเชิงพาณิชย์ในชุมชนโดยมีเครื่องมือขนาดที่เหมาะสมที่สกัดน้ำมันปาล์มแดงธรรมชาติที่ได้มาตร ฐาน อย./GMP เพื่อผลิตน้ำมันบริโภค และเครื่องสำอาง เวชสำอาง ต่อไป.
Discussion about this post