ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณี เมื่อเวลา เวลา 01.20 น วันที่ 19 มีนาคม 2567 พ.ต.ต.วิชัย อำพันธุ์ สารวัตรเวร สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมเข้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ ควนขนุน เข้าตรวจเหตุยิงกันทำให้มีผุ้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเหตุเกิดบริเวณร้านระรื่น ริมถนนสายเพชรเกษม ท้องที่ หมู่ 10 ตำบลโตนดด้วน ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ พบปลอกกระสุนปืนบริแวณ 9 มม. ตกอยู่บริเวณลานจอดรถ และข้างบันไดทางขึ้นร้านจำนวน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่ามีการดวลปืนกันระหว่างนายเอกสิทธิ์ มันแก้ว หรือเอก อายุ 6 ปี ชาว อ.ควนขนุน
จ.พัทลุง คนสนิทคนสนิทของกำนันคนหนึ่ง ซึ่งเป็นกำนันในพื้นที่ อ ควนขนุน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม เข้าที่บริเวณชายโครงด้ายขวาทะลุด้านซ้าย และบริเวณสะโพกซ้าย และเสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะนำตัวส่ง รพ.ควนขนุน และนายอนุชิต เอียดมาก หรือสท.นุ อายุ 39 ปี สท.เทศบาลตำบลแหลมโตนด อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีบาดแผลถูกกระสุนปืนบริเวณต้นขาขวากระสุนฝังใน ได้รับบาดเจ็บ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 มี.ค.67 พ.ต.อ. สการียา ยูโซ๊ะ ผกก. สภ.ควนขนุน กล่าวว่าในเบื้องต้น ความคืบหน้าของคดี ทางพนักงานสอบสวน ยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บและได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.พัทลุง สาเหตุที่ที่ไม่ทำรักษาที่ รพ. ควนขนุน เนื่องหวั่นเหตุชุลมุลที่ โรงพยาบาลเพราะต่างฝ่ายอาจจะมีเคือง เลยต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลพัทลุง ประกับเบื้องผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้ได้เข้ามามอบตัวหลังเกิดเหตุ จึงยังไม่ตั้งข้อกล่าวหา โดยทางพนักสอบสวนกำลังเร่งสอบปปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ 2-3 ปาก เพื่อรวบ รวมหลักฐานตั้งข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวได้สอบเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยทะเลาะกันมาก่อนมั๊ย ทางผู้กำกับบอกว่า จากการตรวจสอบไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน และมาเจอกันภายในร้านอาหาร จึงได้เขม่งกัน จนเกิดเหตุ ยิงขึ้นดังกล่าว
ทางด้านนายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดพัทลุง เปิดเผยข้อมูล หลังจากเกิดเหตุมีการยิงกันบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ร้านอาหารระรื่น ริมถนนเอเชีย หมู่ที่ 10 ต.ตะโหนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยเมื่อช่วงเช้า นายภูดิษ ชนะวรรณโณนายอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง ได้เข้าไปตรวจสอบรายงานมายังจังหวัดทราบ พบว่าร้านระรื่นดังกล่าว ได้เปิดเป็นการขออนุญาตเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป เพียงแต่เปิดกิจการคล้ายสถานบริการ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องลงไปตรวจสอบรายละเอียดลึกอีกครั้ง ว่าเปิดกิจการหม่นเหม่ไปในทางสถานบริการหรือไม่ เปิดปิดตามเวลาหรือไม่อย่างไร ก่อนหน้านี้จังหวัดพัทลุงได้ประชุมนายอำเภอทั้ง 11 อำเภอ เพื่อกำหนดแผนจัดระเบียบสังคม และไม่พบว่าจังหวัดพัทลุงมีการเปิดสถานบริการแต่อย่างใด ซึ่งหากพบมีการกระทำผิด หรือเหม่นเหม่เป็นสถานบันเทิง ก็จะลงโทษตามกับเจ้าของผู้ประกอบตามกฏหมายต่อไป.
Discussion about this post