
นายก อบจ.สกลนคร เดินสายเข้าร่วมกิจกรรม วัน อสม.แห่งชาติ โดยหลายอำเภอจัดกันอย่างคึกคัก มีการแข่งกีฬา ซึ่ง อสม.คือผู้เสียสละนำคนไทยปลอดภัยจากโรค
วันที่ 20 มีนาคม 2567 ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร และ นายก สมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เดินสายเข้าร่วมกิจกรรมวัน อสม.แห่งชาติ ที่อำเภอบ้านม่วง อำเภอคำตากล้า อำเภอสว่างแดนดิน พร้อมมอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมโดยสมาชิก อสม.ทุกอำเภอ จำนวน 18 อำเภอ ร่วมจัดกิจกรรมกันอย่างคึกคัก แต่ละแห่งล้วนจัดกันอย่างสนุกสนาน ที่ได้ทำงานกันอย่างทุ่มเทเสียสละมานาน นับเป็นจิตอาสาที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ มีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทาง อสม. ก็เป็นกำลังสำคัญ คอยให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพแก่ชาวบ้าน ซึ่ง อสม. มีจุดเริ่มต้นจากการที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายที่จะให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ตลอดจนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและพัฒนาสาธารณสุข จึงได้นำเอาการสาธารณสุขมูลฐานมาเป็นกลวิธีหลักในการพัฒนา ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (2520-2524)
โดยกิจกรรมสำคัญคือ สนับสนุนให้มีการดำเนินงานสาธารณสุขมูลฐานครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และส่งเสริมให้ชุมชนตระหนักในความจำเป็น ที่จะต้องแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของชุมชนเอง ซึ่งมีฟันเฟืองสำคัญในการดำเนินงาน คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นจิตอาสาที่เสียสละแรงกายแรงใจ เวลา และทุนทรัพย์ในการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านให้สามารถพึ่งตนเองได้ โดยมิได้รับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
ดร.ชูพงศ์ คำจวง กล่าวว่า ต้อง ยอมรับว่า อสม.คือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนในชุมชน และสามารถช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะให้การยกย่อง เชิดชูเกียรติ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยได้ผลักดันให้มีวันสำคัญของอาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยในปี 2537 กระทรวงสาธารณสุขได้ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้วันที่ 20 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ” โดยเลือกวันที่ 20 มีนาคม เป็น “วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ” เป็นการเริ่มต้นจัดงานเฉลิมฉลองในนามวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ 20 มีนาคม 2537 เป็นต้นมา
อสม.เป็นส่วนสำคัญของระบบสุขภาพปฐมภูมิ ออกไปสำรวจข้อมูลด้านสาธารณสุข เก็บข้อมูล เก็บบันทึกด้านสุขภาพของครอบครัว และรณรงค์เรื่องการป้องกันโรคเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ปกป้องคนในชุมชนจากโรคที่คุ้นเคยตลอดฤดูกาลระบาด
“อาทิ ไปเยี่ยมตามบ้านเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก รวมถึงรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ต้องยอมรับว่าบทบาทของ อสม.มีความสำคัญในการดำเนินงานด้านสุขภาพ แต่เป็นภาพสำหรับการยอมรับของคนในระดับชุมชน การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการพลิกฟื้นความเชื่อถือ เชื่อมั่นในศักยภาพของ อสม.ให้เกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศและรวมถึงคนทั่วโลก
ประเทศไทยอยู่ในห้วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ 4 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นการระบาดในระลอกแรก จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นการระบาดระลอกใหม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า อสม.คือพลังสำคัญและเป็นด่านหน้า ที่ต้องต่อสู้กับการระบาดในชุมชน องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย ชื่นชมไทย โดยระบุว่าไทยมีระบบการดูแลสุขภาพถึงระดับครอบครัว คือ มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. กว่า 1,040,000 คน เป็นผู้ที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และช่วยดูแลประชาชนถึงในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี ทำให้การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพื่อเข้าสู่ระบบรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ” ดร.ชูพงศ์ กล่าว
วัฒนะ แก่วก่า/สกลนคร 0819541528
Discussion about this post