“ศรีสะเกษ” วัดสำโรงเกียรติ ผุดสร้างอุโมงค์ดอกไม้ รองรับนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์

ที่วัดสำโรงเกียรติ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูอรุณ ปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ ประธานชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ พร้อมด้วย นายบวรพัฒน์ รุ่งคำ นายก อบต.บักดอง นำชาวบ้านร่วมกันประกอบพิธีแห่ขบวนดอกไม้ ต้นเงิน และผ้าไตรจีวร เพื่อทอดถวายแด่วัดสำโรงเกียรติ สมทบสร้างอุโมงค์สวรรค์ หรืออุโมงค์ดอกไม้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและบูชาพระสงฆ์ บริเวณด้านข้างอุโบสถ ภายในวัดดังกล่าว อีกทั้งยังเพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และช่วงเทศ กาลทุเรียนภูเขาไฟ ที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือน มิ.ย. นี้

โดยกิจกรรมภายในงานเริ่มต้นจากพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จากนั้นได้ตั้งขบวนแห่รอบหมู่บ้าน โดยมีขบวนกลองยาว พร้อมทั้งขบวนรถยนต์ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้พลาสติกหลากสีสันอย่างสวยงาม พร้อมทั้งมีการร่ายรำกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ทางเจ้าภาพใหญ่ใจสปอร์ตยังได้มีการโปรยทานด้วยเหรียญ 5 บาท , 10 บาท และแบงค์ 20 บาท รวมจำนวนกว่า 5,000 บาท ตลอดเส้นทางขบวนแห่อีกด้วย สร้างความฮือฮาแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

จากนั้นได้นำต้นเงิน พร้อมดอกไม้ รวมทั้งบริวารผ้าป่าทำพิธีทอดถวาย เมื่อเสร็จสิ้นพิธี ชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างพากันลุกฮือแห่เดินเข้าอุโมงค์สวรรค์ หรืออุโมงค์ดอกไม้ที่เปิดให้เข้าเที่ยวชมเป็นครั้งแรกกันอย่างคึกคัก โดยอุโมงค์ดังกล่าวมีความยาวประ มาณ 30 เมตร กว้าง 5 เมตร มีดอกไม้หลากสีสันตลอดทางเดิน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

พระครูอรุณ ปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ กล่าวว่า วัดสำโรงเกียรติ เป็นวัดเก่าแก่ 1 ใน 13 วัด ของจังหวัดศรีสะเกษ มีองค์หลวงพ่อพระตาตน พระศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองมาแต่สมัยโบราณ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา ประดิษฐานอยู่ภายในวัด การทำบุญทอดผ้าป่าดอกไม้พร้อมทั้งบริวารทั้งหลายในวันนี้ จึงถือว่าเป็นการทำบุญบูชาพระ เพราะดอกไม้ไว้บูชาพระสงฆ์ การถวายเทียน เป็นการบูชาพระธรรมกับพระวินัย ส่วนการถวายธูป เพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้า ส่วนสาเหตุที่ใช้ดอกไม้พลาสติกมาประดับตกแต่งเป็นอุโมงค์นั้น เนื่องจากหากใช้ดอกไม้จริง ก็จะไม่คงทนและเหี่ยวแห้งเร็ว จึงปรับเปลี่ยนเป็นดอกไม้เทียมหรือดอก ไม้พลาสติก เพื่อให้อยู่คงทนสวย งามเป็นเวลานาน เช่นเดียวกับกรณีการถวายเทียนพรรษา ที่ปัจจุบันมีการนำหลอดไฟมาถวายวัด ก็เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนานตามยุคสมัย.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน