วันที่ 4 เม.ย.67 เจ้าหน้าทหารหมวดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังผาเมือง อาสารักษาดินแดน (อส.) กลุ่มงานความมั่นคง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนของกลางจำวนมากไปตามแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว และจะลักลอบนำขึ้นฝั่งที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงได้นำกำลังเข้าไปสกัดกั้นเอาไว้ เวลาต่อมาเมื่อไปถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำพื้นที่หมู่บ้านสวนดอก หมู่ 8 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ได้ตรวจพบกลุ่มคนนำเรือเข้าเทียบฝั่งไทยและช่วยกันขนกระสอบฟางสีรุ้งไปวางเป็นกองไว้ที่ริมฝั่ง เจ้าหน้าจึงได้แสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ แต่ปรากฎว่ากลุ่มคนกลุ่มดังกล่าว กลับพากันแตกตื่น บางคนวิ่งขึ้นเรือแล้วขับเรือแล่นออกไปกลางแม่น้ำโขง โดยมีกระสอบจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ขนขึ้นฝั่งติดไปด้วย ส่วนบางคนกระโดดลงแม่น้ำโขงแล้วว่ายน้ำหายไปความมืด
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบกระสอบที่เหลือวางกองอยู่พบมีจำนวน 33 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดประเภทยาบ้าใบละประมาณ 240,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 7,920,000 เม็ด และไม่พบบุคคลใดอยู่บริเวณดังกล่าวอีกเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เพื่อขยายผล
ทั้งนี้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ร้อย ม.1 บก.ผาดง ฉก.ไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ได้ตรวจยึดยาบ้า 6,400,000 เม็ด บนถนนชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่หมู่บ้านนาอ่อน ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ หลังจากคนขับรถยนต์เอนกประสงค์ มิสซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ ได้ทิ้งรถไว้กลางถนนเพราะเห็นเจ้าหน้าที่อยู่่ข้างหน้า ในรถพบบรรทุกกระสอบฟางในลักษณะเดียวกัน 32 ใบ
ทางด้าน พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้เดินทางไปตรวจสอบทั้ง 2 จุด พร้อมระบุว่า ช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้มีการสกัดกั้นยาเสติดได้ถึง 2 รายใหญ่ รวมของกลางยาบ้าในวันเดียวกันกว่า 13 ล้านเม็ด และในปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นมากองกำลังผาเมืองได้สกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนได้ถึง 242 ครั้ง ผู้ต้องหา 258 คน ปะทะ 28 ครั้ง วิสามัญฆาตรกรรม 29 ศพ ยึดยาเสพติดเป็นยาบ้าในรอบ 6 เดือน 4 วัน จำนวน 87 ล้านเม็ด เฮโรอีน 231 กิโลกรัม ไอซ์ 120 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากอย่างแท้จริง หากว่าเข้าสู่กรุงเทพฯ จะมีมูลค่ากว่า 14,600 ล้านบาท
พล.ต.ประพัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ฝีายปกครอง ฯลฯ ภายใต้การนำของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) ได้ทำการสกัดกั้นอย่างหนักเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการปะทะเพียงแค่ 18 ครั้ง ปีนี้มีมากกว่าและในส่วนของยาปีก่อนยึดได้ 42 ล้านเม็ด เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของครึ่งปีงบประมาณนี้เลยทีเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่จะได้บูรณาการกันทุกฝ่ายและแหล่งข่าวประชาชนยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสกัดกั้น.
Discussion about this post