
เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 8 เมษายน 2567 นายแพทย์กิตติ กรรภิรมย์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 5 พร้อมด้วย นายแพทย์สุรวิทย์ ศักดา นุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสา คร,นายแพทย์ ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร, ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สมุทรสงคราม สำนักงานป้องกันควบ คุมโรคที่ 5 ราชบุรี ผู้บริหารสำนักงานสาธารณ สุขจังหวัดสมุทรสาคร คณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมโรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อวางมาตร การและแนวทางการรักษาผู้ที่ได้รับสารแคด
เมียม จากบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด โดยเบื้องต้นจากการตรวจปัสสาวะของพนักงานภายในโรงงาน 11 คน จากจำนวนทั้งหมด 19 คน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 พบสารแคดเมียมในร่างกายทั้ง 11 คน แต่เป็นผู้ที่มีสารในร่างกายสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 8 คน ส่วนที่เหลืออีก 8 คน อยู่ระหว่างการนำตัวเข้ามาตรวจหาสารแคดเมียมเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังได้มีการวางแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมในการตรวจเชิงรุกให้แก่ประชาชนในชุมชนรอบโรงงานฯ และ ปฏิบัติการตรวจหาสารแคดเมียมในร่างกายของพนักงานบริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ที่มีการตรวจพบกากแร่แคดเมียมในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืดเช่นเดียวกัน โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
นายแพทย์สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับผลการเก็บตัวอย่างหาสารแคดเมียมในปัสสาวะของพนักงานโรงงานแห่งแรก จำนวน 11 คน พบมีสารแคดเมียมทุกคน แต่ที่สูงเกินเกณฑ์มาตร ฐานมี จำนวน 8 คน โดยทั้งหมดไม่มีอาการผิดปกติ จึงได้ประสานพนักงานโรงงานทั้งหมดทั้งที่ตรวจแล้วและยังไม่ได้ตรวจรวม 19 คน ให้มาเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดเพื่อยืนยันผล ก่อนนำเข้าสู่การวิเคราะห์และประเมินแนวทางหรือวิธีการรักษาในโรงพยาบาลสมุทรสาครโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป
สำหรับกระบวนการดูแลรักษาในเบื้องต้น จะต้องตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจเช็คอวัยวะต่างๆ ของร่างกายก่อน เช่น ปอด ไต ตับ กระเพาะอาหาร ระบบการหายใจ จากนั้นก็จะประเมินร่างกาย พร้อมนำข้อมูลปริมาณสารแคดเมียมที่ตรวจพบว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด มาวิเคราะห์แล้วจึงทำการรักษา ซึ่งหากมีสารแคดเมียมในร่างกายที่ไม่สูงเกินไป ระบบร่างกายจะสามารถขับถ่ายออกมาเองโดยธรรมชาติแต่ทั้งนี้ต้องมีการคัดแยกกลุ่มคนเหล่านี้ออกมาจากพื้นที่เดิม ส่วนผู้ที่พบสารแคดเมียมสูงจนอาจเป็นอันตรายต่อร่าง กายได้ หรือ ร่างกายไม่สามารถขับออกมาได้ทันนั้น อาจจะต้องมีการให้ยาขับสาร ซึ่งทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสา คร ยังได้เตรียมความพร้อมของทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่ให้บริการตรวจหาสารแคดเมียมในร่าง กายแก่ประชาชนที่อยู่ในชุมชนรอบโรงงาน(แห่งแรก) ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งนอกจากจะเพื่อเป็น การตรวจสุขภาพให้แก่พี่น้องประชาชนแล้ว ยังเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินความเสี่ยงของประชาชนภายนอกโรงงานที่มีโอกาสอาจจะได้รับสารแคดเมียมอีกด้วย ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ที่มีการตรวจพบการกักเก็บกากแร่แคดเมียม เช่นเดียวกันนั้น ก็จะลงพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวทางเดียวกับโรงงานแห่งแรก ขณะที่ภาพรวมทางด้านความเสี่ยงของประชาชนโดยรอบขณะนี้ พบว่า ผู้ที่ได้รับสารแคดเมียมคือผู้ที่อยู่ภายในโรงงานและมีการสัมผัสกับกากแร่แคดเมียมโดย ตรง ส่วนประชาชนภายนอกต้องรอผลการตรวจร่างกายที่ทางสาธารณสุขกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก่อน จึงจะสรุปผลที่ชัดเจนได้.
ณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส/สมุทรสาคร
Discussion about this post