จากกรณีนางสุภาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี อาชีพแม่บ้าน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี ว่าถูกสามีคือนายศิระ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ที่อยู่กินกันมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2544 (บ้านหลังที่ 1 ต.ปากเกร็ด) มีลูกด้วยกัน 2 คน แอบมีชู้เป็นสาวลาวดาวติ๊กต็อก ผู้ติดตามเกือบ 2 ล้าน ซึ่งมาจับได้ว่าสามีมีชู้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จึงขอเคลียร์แต่ชู้ไม่ยอมเลิก สามีไม่พอใจจึงเก็บกระเป๋าออกจากบ้าน โดยมีแม่สามี อายุ 74 ปี คอยสนับสนุน ยุยงส่งเสริมให้ทิ้งครอบครัวไปอยู่กับชู้อย่างเปิดเผย หลังจากนั้นก็มีปัญหาครอบครัวมาตลอด จนเกิดการทะเลาะวิวาทอย่างหนัก มีการทำลายโทรศัพท์มือถือ และทำร้ายร่างกายนางสุภาภรณ์จนได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด ตั้งแต่ 30 ม.ค. 2563 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำยังถูกสามีฟ้องหย่า จนนางสุภาภรณ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้ดร.แก้วเช้าช่วยเหลือ ดังนี้
ต้องการทนายแย้ง เรื่องที่โดนฟ้องหย่า 2.คดีทำร้ายร่างกายไม่มีความคืบหน้า และ 3.ดำเนินคดีเรื่องหมู่บ้าน ตนจึงตัดสินใจชวนลูกสาวไปดูด้วยตัวเอง แต่สวนทางกันทำให้ตนเจอแต่แม่สามีที่อยู่ในบ้านหลังนั้น จากนั้นตนพยายามเดินหารอบบ้าน แม่สามีได้เข้ามาตบตีตน ตนจึงหนีลงมาด้านล่างและแม่สามีจึงถีบตนตกบันได ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ซักพักสามีได้กลับมาและร่วมทำร้ายร่างกายตน เข้ามาตบที่ศีรษะ และดึงผม ก่อนสามีจะขับรถหนีไปกับชู้ ขับรถเข้าไปในโรงเรียนของหน่วยงานทหารแห่งหนึ่งแถวถนนติวานนท์ ตนจึงขับรถตามและได้มามีปากเสียงอีกครั้ง จากนั้นจึงมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือเพราะตนถูกสามีตบตี เพื่อปกป้องชู้ และหักโทรศัพท์มือถือตนทิ้ง
ต่อมาสายตรวจได้เข้ามาห้ามและไปไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจ ซึ่งตนได้แจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2563 แต่คดีไม่คืบ วันนี้ตนกลับได้รับหมายศาลเรื่องฟ้องหย่าจากสามี จึงอยากให้ดร.แก้วช่วยหาทนายมาสู้คดี เพราะตนเป็นแม่บ้านไม่มีอาชีพและไม่มีรายได้ มีลูก 2 คน คนโต อายุ 22 ปี คนเล็ก อายุ 18 ปี ตลอดเวลาตนทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกและไม่รู้เลยว่าสามีแอบมีชู้ จนย้ายไปอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย ตนลำบากมากเพราะต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างราคาสูงขึ้น สามีให้ค่าเลี้ยงดูลูกคนโต 8,000 บาท คนเล็ก 3,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอ ตอนนี้ตนอยากให้สามีเลิกกับชู้อย่างเด็ดขาด ตนยืนยันที่จะไม่หย่าเพราะไม่ได้ผิด ถ้าจะหย่าก็ต้องจ่ายในราคาที่สูง ตนรักสามีและอยู่กินด้วยกันมานาน ตนอยากบอกกับสามีว่าก่อนที่จะคบกันเคยสัญญาอะไรกันไว้บ้าง แล้วมาทำร้ายกันแบบนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ลูกมีปัญหาและตนกับลูกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หากสามีไม่เลิกยุ่งกับชู้ตนจะฟ้องร้อง แต่ถ้าเลิกกันตนก็จะยอมจบ ซึ่งชู้ของสามีเป็นต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 เมษายน 67 นางสุภาภรณ์ หรือจิ๋ว เมียหลวง แนะนำเอกสารหลักฐานรวมทั้ง ใบสำคัญการจดทะเบียนสมรสเดินทางมาที่สภปากเกร็ดเพื่อพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี หนังสือมวลชนมีการเสนอข่าวออกไปอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในด้านคดี ให้กับนางสุภาภรณ์ หลังจากไม่มีความคืบหน้ามานานนับปี
นางสุภาภรณ์ เผยว่า ตอนยืนยัน จะไม่ขอยาล้างกับสามีอย่างเด็ดขาด ตนยังรัก และเป็นห่วงเขา อยากให้เขากลับมารับผิดชอบดูแลครอบค รัว ลูกชายก็กำลังจะเรียนมหาวิทยาลัย ลูกสาวก็กำลังจะเข้า มหาวิทยาลัยเช่นกันในปีนี้ ต้นคงไม่มีรายได้พอที่จะเลี้ยงดู สามีทำงานได้เงินเดือนเป็นแสนๆ แต่กลับทิ้งครอบครัว ไปอยู่กับสาวลาวดาวติ๊กต๊อก ต้นอยากให้เขานึกถึงอดีตที่อยู่กินกันมานานนับ 10 ปี ตนยืนยันไม่ขอเลิกอย่างเด็ดขาด อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการ ด้านกฎหมายและขอขอบคุณ ดร. แก้ว และสื่อมวลชนที่ยิ่นมือเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้.
Discussion about this post