เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่วัดเวฬุวัน(วัดทุ่งมะพร้าว) ในพื้นที่ ตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง หลังทราบข่าวว่า ทางวัดได้จัดงานฝังลูกนิมิต เพื่อหาเงินสร้างโบสถ์ แต่ต้องเจอกับปัญหาที่มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน ได้เข้ามาขอเงินเป็นค่าอำนวยความสะดวกจำนวน 70,000 บาท แต่ทางวัดไม่มีให้เพราะเป็นวัดเล็กๆ ในชนบท หลังไม่ได้เงิน เจ้าหน้าที่ได้ส่งกำลังลูกน้องมาก่อกวนทั้งภายในและภายนอกวัด ทำการตรวจค้นผู้ที่เข้าไปทำบุญ จนชาวบ้านทั้งในส่วนที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติเอือมระอาจึงไม่มาทำบุญ
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าว ได้ทำการสอบถาม พระคณุภัทรศรคุณ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ในฐานะเจ้าคณะคณะตำบลปากจั่น ได้เปิดเผยถึงปัญหาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ที่วัดเป็นเพียงวัดเล็กๆ ครั้งนี้ทางวัดมีการจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต เพื่อนำรายได้จากการทำบุญไปสร้างโบสถ์ที่สร้างไว้เป็นเวลาเกือบ 10 ปีที่ยังสร้างไม่เสร็จเนื่องจากทางวัดไม่มีเงินอยู่พื้นที่ห่างไกล
โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 11-20 เมษายน 67 มีการเชิญชวนผู้ขายสินค้าและการแสดงเข้ามาเช้าพื้นที่เพื่อเป็นรายได้ของวัดบวกกับเงินทำบุญ แต่พอเริ่มจัดงานวันแรกได้มีเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่นำกำลังพร้อมอาวุธเข้ามาในวัด จากนั้นทำการพูดคุยกับกรรมการวัดว่าต้องการเงินจำนวน 70,000 บาท ส่งให้นายข้างบน แล้วจะดูแลความปลอดภัยไม่มีการจับกุมผู้ที่เข้ามาทำบุญ โดยเฉพาะชาวเมียนมาที่ข้ามมาจากฝั่งพม่า หรือที่ทำงานตามสวนยางที่จะเข้ามาทำบุญ
ทางวัดได้บอกไปว่ายังไม่มีเงินหากต้องการเงินมากขนาดนั้น ขอให้ทางวัดได้เก็บค่าเช่าที่ขายของรวมถึงเงินทำบุญสัก 2-3 วันก่อนเพราะปัจจุ บันวัดไม่มีเงินเลย ทางเจ้าหน้าที่แสดงอาการไม่พอใจ จากนั้นพอเริ่มงาน ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากอาวุธครบมือนำทั้งรถขังผู้ต้องหาจำนวน 2 คัน รถเปิดไซเลน มาจอดที่หน้าวัดปิดทางเข้าออกทำการตรวจค้นผู้ที่จะเข้ามาเที่ยวงานและผู้ที่จะมาทำบุญ โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย จนผู้ที่มาทำบุญต่างกลับกันหมดเหลือแต่แม่ค้า ต่อมาแม่แม่ค้าเก็บร้านกลับเกือบหมดเพราะไม่มีคนซื้อ ทางวัดก็ไม่ได้ค่าเช่า คนทำบุญก็ไม่มีเพราะรำคาญกับเจ้าหน้าที่ ที่อ้างข้อกฎหมายความปลอดภัยต่าง ๆ นานาที่เข้ามาก่อกวน
ทั้งๆที่ก่อนเริ่มงานทางวัดทำการขออนุญาตอย่างถูกต้องทั้งในเรื่องการจัดงาน การขายของ มหรสพต่าง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังก่อกวนไม่หมด ชาวบ้านในพื้นที่เองก็รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่พูดไม่ออกเพราะไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ ครั้งนี้วัดคงเป็นหนี้ค่าจัดงานแทนที่จะได้เงินไปต่อเติมสร้างอุโบสถ์ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันเป็นเพียงวัดเล็กๆ ที่ชาวบ้านในพื้นที่มาทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรม แต่มาโดยเจ้าหน้าที่รัฐทำแบบนี้ ทำได้แต่เพียงฝากสื่อช่วยเผยแพร่การกระทำดังกล่าวไปให้ถึงผู้ให้ที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อ้างได้รับทราบ เพราะคิดว่าคงจะทำมาหลายวัดแล้วจึงไม่เกรงกลัวอะไรเลย ขอฝากวิงวอนเห็นใจวัดด้วย.
ไพโรจน์ รัตนรัตน์ จังหวัดระนอง
Discussion about this post