
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ผู้สื่อข่าวายงานว่า ทีมดับเพลิงเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีของวินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นำโดยนายทศพล บวรโมทย์ นอภ.บ้านค่าย และนายจตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายก อบต. บางบุตร ได้ประชุมทีมดับเพลิง หลังจากใช้สาร F-500 เข้าดับไฟบริเวณโรงที่ 3 ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมดรอส(กากเหลือจากการหลอมอะลูมิเนียม) แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถทำให้มอดสนิทได้ โดยพบว่าดินและทรายที่กลบเกิดยุบตัวแล้วมีโพรง และไฟเกิดการปะทุขึ้นมาอีกอยู่เรื่อยๆ จึงยังไม่มอดเสียที จึงต้องมีการร้องขอ เจ้าหน้าที่ สคพ.13 ชลบุรี ให้นำเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ มาตรวจกองสารเคมีโรงที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างกากตะกรันอะลูมิเนียมมาตรวจสอบด้วย เพื่อให้สามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล รวมทั้งจะมีนำปูนขาวหรือหิน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าดินและทรายเข้ากลบในโกดัง 3 อีกด้วย
ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เพราะว่ามีสารเคมีชนิดต่างๆ จำนวนมาก และอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาของศาลปี 64 ให้วินโพรเสสดำเนินการกำจัดทั้งหมด ซึ่งกว่าจะได้ดำเนินการจริงจังต้นปี 65 โดยอ้างว่าหาผู้รับเหมาที่เหมาะสมไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะมีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกำกับดูแลว่ากำจัดถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการนำสารเคมีออกไปกำจัดเกิดความล่าช้ากระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นการวางเพลิงชัดเจนโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ส่วนที่โรงงานแห่งนี้ ทางกรมโรงงานฯ ได้มีการย้ำกับทางวินโพรเสส ให้จัด รปภ.เข้าเวรยามตลอดเวลา และติดกล้องวงจรปิดไว้ด้วย ซึ่งจะไปตรวจสอบว่าช่วง้วลานั้นมีใครเข้าออกบ้าง ซึ่งเป็นประเด็นที่จะคลายข้อสงสัย ส่วนเรื่องที่กรมโรงงานฯ ที่คิดว่าจะทำ 2 เรื่อง คือ 1.เดิมโรงงานแห่งนี้ต้องคำพิพากษาของศาล จะขอให้อัยการจังหวัดยื่นขอแถลงศาล ขอเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการ ให้ทางกรมโรงงานฯ เข้ามาดำเนินการจัดการเกี่ยวกับเพลิงไหม้ และสารเคมีในโรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน และ 2.การบริการจัดการงบประมาณที่จำเลยนำเงินไปวางที่ศาล ขอให้ทางกรมโรงงานฯ เป็นผู้จัดการ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการจัดการกับสารเคมีในโรงงานฯ ทั้งไหม้ไปแล้ว และยังไม่ไหม้
ด้านนายอนันต์ ประกอบสุข อายุ 52 ปี ชาวบ้านบอกรู้สึกดีใจที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางลงมาติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ วอนขอให่นายกรัฐมนตรีช่วย เพราะเดือดร้อนมาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้านายกฯ ลงมาแล้ว หากไม่ได้รับการแก้ไข พวกเราคงจะไม่มีที่พึ่งแล้ว อยากให้นายกฯ มาแก้ปัญหาให้จบสักที ถ้านายกฯ ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ จะขอขอบคุณมากๆ ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดตอนนี้คือ อยากให้นำเอาสารเคมีที่เกิดไฟไหม้เอาออกไปโดยเร็ว เพราะยิ่งเอาไว้นานชาวบ้านก็จะยิ่งได้รับผลกระทบหนักขึ้นไปอีก.
Discussion about this post