จากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ค ใช้บัญชีชื่อว่า Warootip Siriangkul ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อชีวิต เจอสามีรับราชการทหารอยู่กองพันหนึ่งในจังหวัดน่าน ติดหนี้สิ้นมากมายเนื่องจากนำเงินไปปรนเปรอเมียน้อย สาวเชียร์เบียร์ จนมีคนส่งข้อมูลไปให้ ไปรับไปส่งไปเฝ้า ไม่สนใจลูกเมียที่มีทะเบียนสมรส เคลียร์ใจให้เลิกไม่ยอมเลิก อ้างขอย้ายไปประจำเชียงใหม่เพื่อจะได้เก็บเงินปลดหนี้ ที่ไหนได้ ย้ายตามเมียน้อยไปนอนกกกันอยู่บ้านพักสวัสดิการในค่าย เจอทั้งส่งข้อความมาเย้ย โพสต์เย้ย ทนไม่ไหวขอให้ย้ายกลับมาน่าน เจอผัวตัวดีด่าว่าทำชีวิตพัง จนสาวเจ้าทนพฤติกรรมไม่ไหว เงินเบิกคืนค่าเล่าเรียนลูกไม่คืนเอาไปปรนเปรอเมียน้อยหมด ข้อความว่า “เมื่อสงครามสมรสเกิดขึ้นในชีวิตจริงเราตอนนี้ เราคบและแต่งงานอยู่กินกับสามีมา 7 ปี เรามีลูกด้วยกัน 2 คน คนโต 6ขวบ (น้องเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองตอนนี้หายมาได้ 2ปี แล้วค่ะ) คนเล็ก พึ่งได้ 10 เดือนเอง
เริ่มต้นคือ ช่วงประมาณปลายปี65 สามีเริ่มสร้างหนี้สินโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน (มารู้ตอนหลังติดการพนันและอื่นๆ) มาทราบตอนที่เค้ามาสารภาพและมาซบหลังแกล้งร้องไห้บอกเป็นหนี้บัตรอยู่แสนกว่า และในแอพเงินกู้อีกหมื่นกว่า มาขอโทษในสิ่งที่ผิดพลาดไป พร้อมยืมเงินไปประมาณ 7พัน เพื่อไปใช้หนี้ในแอพเงินกู้ เราก็ให้ไป หลังจากนั้นมาขอยืมเงินอยู่เรื่อยๆ ครั้งละหมื่นบ้าง หลักพันบ้างโดยอ้างนู้นอ้างนี่ตลอด รวมทั้งมาขอยืมเงินที่ญาติและแม่ของเรา แต่ก็ไม่ใช้คืน เราต้องเป็นคนตามใช้หนี้ให้ตลอด และมาโกหกหลอกขอยืมรถยนต์ของเราไปเข้าไฟแนนซ์ เอาเงินออกมา 1.5แสน บอกไปใช้หนี้บัตร เค้าบอกรอเงินกู้สหกรณ์สิ้นเดือนจะมาปิดให้ แต่ก็ไม่มีมาปิด เค้าแอบขโมยทอง 1 บาทของเราไปจำนำ เราต้องไปไถ่ทองของตัวเองคืน จำนวน2หมื่นกว่าบาท
เราย้ายมาอยู่บ้านใหม่นี้ เดือน เม.ย.64 สามี มีค่าใช้จ่ายหลักคือจ่ายค่าบ้าน ค่าเน็ต ส่วนเรา จ่ายค่าใช้จ่ายเรื่องลูกทั้งหมด ทั้ง 2 คน นม แพมเพิส ค่าเทอม เสื้อผ้า ขนม ค่าไฟ ของใช้ต่างๆในบ้าน ค่าอาหาร เวลาไปเที่ยว เราก็เป็นคนออกค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด และเราก็มาช่วยจ่ายค่าบ้านตั้งแต่เดือน ส.ค.66 ค่าเน็ต และใช้หนี้รถยนต์แทนเค้า ตั้งแต่เดือน ต.ค.66 สามีมีปัญหาเรื่องเงินหนักมาก จนเราเริ่มช่วยไม่ไหวแล้ว จนเค้ามาขอย้ายไปทำงานบนดอยที่เชียงใหม่ เค้าให้สัญญาว่า จะไปทำงานเก็บเงินปลดหนี้ และทำเพื่อลูกเพื่อครอบครัว เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ขอปรับปรุงตัวใหม่ เราก็เชื่อ ก็ไว้ใจเค้า เดือนตุลาเขาได้ย้ายไปสมใจ ช่วงกลางเดือนเขาเริ่มหาย ติดต่อไม่ค่อยได้ทำตัวผิดปกติ ลูกโทรหาช่วงตั้งแต่ 19:00 เป็นต้นไป แทบไม่เคยรับสาย (มารู้ทีหลังคือไปเฝ้าผญ คนนั้น) หลังจากนั้นมีหมายศาลทวงหนี้บัตร หลายแสนส่งมาที่บ้าน เราทุกข์ใจเครียดอย่างมาก ทำให้มีปากเสียงกัน เราทนพฤติกรรมไม่ไหวเลยพลั้งปากบอกเลิกไป ตามประสาคนโมโห แต่เขาไม่ยอมเลิก ยังขอโอกาส ขอปรับปรุงตัวอีกครั้ง เดือน พฤศจิกายน พาลูกไปตรวจตามหมอนัดที่เชียงใหม่ ไปนอนบ้านพักเค้า เราเจอกับขนตาปลอม 1ช่อ เราถามว่าพาใครมานอน เค้ากลับปฏิเสธ และอ้างต่างๆ เราเลยได้แค่สงสัยแต่ไม่มีหลักฐานอะไร
จนผ่านไปต้นเดือนมกรา มีผู้หวังดีทักมาบอกว่าสามีเรามีชู้ ชื่อนี้ ทำงานเชียร์ขายเครื่องดื่ม(ตอนนี้ออกแล้ว) ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ สามีเราไปเฝ้า ไปรับ-ไปส่งทุกวัน พาไปซื้อนั้นกินนี่ พาไปนอนที่บ้านพัก เพื่อนในที่ทำงานรับรู้หมด แต่ไม่มีใครอยากยุ่ง เขาพากันไปเที่ยวดอยช่วงปีใหม่ ต้นเดือน ม.ค.67 แต่บอกเราว่า ไปส่งนายทำงาน บนดอยไม่มีสัญญาณเค้าหายไปเต็มๆ 1วัน
หลังจากนั้นเค้าก็ลากลับบ้าน อยู่บ้านกับเราและลูกแค่ 5วัน อ้างกับเราว่าต้องรีบกลับ มีเข้าเวร นายเรียกไปขับรถให้ พอเรารับรู้ก็ได้มีการเคลียร์กัน กับทั้ง สามีและฝ่ายผู้หญิง เขารับปากจะเลิกให้เราทั้งคู่
แต่หลังจากนั้นเราก็จับได้เรื่อยๆว่าเค้ายังคบยังไปหายังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน ฝ่ายหญิงพยายามลงรูปที่ติดของใช้สามีเรา รูปจับมือกัน ไปเที่ยวแล้วแท็กไอจีอีกอันที่สามีสมัครใหม่ เดือน กุมภาพัน สามีกลับมาบ้าน เขาก็ยังไม่จบกัน ทักหากัน โทรคอลหาตลอด เพื่อน พี่ พ่อ แม่ น้า ฝั่งสามีรับทราบกันหมด เราเลยส่งข้อความไปต่อว่าผู้หญิงให้เลิกยุ่งกับสามีเรา (ตรงนี้เราใจร้อน) แต่เราโดนผู้หญิงด่ากลับพูดจาดูถูกเหยียดหยาม เราเคยโทรไปคุยกับแม่และพี่สาวฝ่ายหญิงบอกถึงพฤติกรรมของฝ่ายหญิง แม่และพี่สาวเค้ารับทราบ จะตักเตือนให้ ให้เลิกยุ่งกับสามีเราเด็ดขาด แต่ฝ่ายหญิงแทนที่จะสำนึกและเลิกยุ่ง กลับด่าต่อว่าเราลงสตอรี่เฟส พูดให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ
จนเราได้มีการตามสืบเงียบๆ จนพบว่าเขาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเปิดเผย ทั้งพากันไปในบ้านพักค่าย ไปรับส่งที่ร้านเหล้า ที่ผู้หญิงไปทำงาน เราได้แอบตามไปหาถึงที่บ้านพัก พบเสื้อผ้าของใช้ผู้หญิงในห้องสามี ตอนแรกตามไปที่หอฝ่ายหญิงก่อน แต่ทั้ง2ไม่กล้าเปิดประตูออกมาหา ได้มีการเคลียร์กันอีกครั้ง เหมือนทุกอย่างจะจบแล้วแต่แล้วก็ไม่ยอมเลิกรา เค้าไม่ยอมเลิกกับเรา และไม่ยอมเลิกกับฝ่ายผู้หญิงคนนั้น เราได้เข้าไปแจ้งเรื่องกับทางต้นสังกัดว่าสามี มีชู้ขอให้ย้ายเค้ากลับมาทำงานที่เดิมมาช่วยเราดูแลเลี้ยงลูก เราได้ถามกับทางต้นสังกัดว่า เค้าทำผิดวินัย ที่บ้านพักเค้าก็มีกฎไม่ให้พาบุคคลภายนอกเข้าไปพัก ไม่ใช่หรือ แล้วสามีพาหญิงอื่นเข้าไปพักอย่างเปิดเผยแบบนั้น ทำไมถึงไม่โดนลงโทษอะไรเลย ทางต้นสังกัดก็เงียบๆและบอกแค่ว่าจะทำเรื่องย้ายสามีให้
พอสามีรับทราบว่าโดนย้าย ก็โกรธเราเป็นฝืนเป็นไฟ พูดสาดเสียเทเสียด่าว่าเราเสียๆหายๆว่าไปถึงแม่เรา ข่มขู่ ดูหมิ่นเรา ถามหย่าเรา เราเลยเรียกเค้าไป 5แสน พร้อมเซ็นใบหย่า เค้าไม่ยอม ด่าเราลงหน้าเฟสว่าเราสันดานไม่ดี ปากเสีย หน้าเงิน ให้ผู้หญิงคนนั้นลงรูปคู่ของเค้าและคำพูดเยาะเย้ย ลงในสตอรี่เฟส ไอจี หยามเราให้เราเสียใจอีกครั้ง และก็บล็อคเฟสเราไปเลย ค่าเลี้ยงดูไม่เคยให้ เงินเดือนเบี้ยเลี้ยงทุกบาทเรากับลูกไม่เคยได้ แถมเรายังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินกับเค้าอีก ไม่มีสามัญสำนึกกันทั้ง2ฝ่าย แล้วเราก็พึ่งมารู้ก่อนเค้าจะกลับ ว่าเค้าเอาเงินค่าเทอมลูกที่เราเป็นคนจ่าย ที่ให้เค้าเป็นคนเบิก แต่เค้ากลับเอาเงินนั้นไปใช้กินใช้เที่ยวกับผู้หญิงคนนั้นหมด เงินค่าเดินทางพาลูกไปตรวจตามหมอนัด เราก็จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งสามารถไปเบิกกับโครงการหนึ่งได้ เค้าก็แอบเอาไปเบิกใช้คนเดียว เราเคยถามเค้าเรื่องการเบิกเงินนี้ แต่เค้ากลับโกหกว่า ไม่เคยได้รับเงินเลย มาโดยตลอด ซึ่งพอเราได้คุยกับทางหน่วยงาน เค้าบอกว่าสามีมาเบิกทุกครั้งและได้เงินทุกครั้ง
ปัจจุบัน สามีได้ย้ายกลับมาทำงานที่เดิม สามีให้ผู้หญิงคนนั้นมาส่ง หรือย้ายข้าวของมาอยู่ด้วยกันแล้วอันนี้เราไม่รู้จริงๆ เพราะตั้งแต่ย้ายมา สามีไม่แม้แต่จะเข้ามาหาลูกที่บ้านเลยด้วยซ้ำ แต่พาผู้หญิงคนนั้นไปเที่ยวผับ จนเราโพสขายนกของเค้า ทำให้เค้าโกรธเรามาก และได้เข้ามาที่บ้านช่วงบ่าย มาเอานกที่เหลือไป และมาพูดถามลูกว่าไปอยู่ด้วยกันมั้ย บอกแม่เราให้เราหย่ากับเค้าซะ แล้วเค้าจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง ว่าแม่เราเลี้ยงเราไม่ดี ว่าเราไม่ดี ด่าเค้าในสตอรี่ไม่ไว้หน้าเค้า เรียกเราอี่ทุกคำที่พูดกับแม่เรา พูดใส่ร้ายเราว่าเอาผัวใหม่ ไปนอนกับผู้ชายมาแล้ว ทั้งที่เรา ทำงานตั้งแต่ 6โมงเช้า เที่ยงกลับบ้านมาหาลูก เลิกงาน 6โมงเย็นกลับบ้านทุกวัน ไม่เคยได้ไปไหนเลย กับลูกไม่เคยจะไปรับส่ง กับผญ คนนั้น ไปรับส่งตลอด อันนี้คือเราเจ็บที่สุด วันหยุดกลับมาหาลูกแทบไม่อยู่บ้าน ต้องออกไปที่อื่น ไปคุยกับผญคนนั้น เจอหน้าลูกแทบจะนับชั่วโมงได้ ณ ตอนนี้เราได้มีการยื่นฟ้องชู้ไปแล้ว ผญ.รับรู้ว่าได้หมายศาล แต่ก็ยังไม่เกรงกลัวกฎหมายกับสิ่งที่ทำ โดยคบกันต่ออย่างเปิดเผย เราออกมาแชร์ เพราะเราทนโดนดูถูกไม่ไหว ผู้ชายเอาแต่ไปพูดกับคนอื่นว่าเราไม่ดีไม่ให้เกียรติเขา สร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนถูก แต่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิด หวังว่าเรื่องนี้จะเตือนใจผญ หลายๆคน เราต้องให้เกียรติตัวเองรักตัวเองให้มากๆ #อมของหลวง #กระแส #สงครามสมรส”
ด้าน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามเรื่องราวดังกล่าว โดยพบกับน้อง แต (นามสมมุติ) เมียทหาร ที่ผัวทหารแอบเมียไปมีสัมพันธ์กับสาวอื่น ทางด้าน น้อง แต (นามสมมุติ) ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทางด้ายสามีที่เป็นทหาร ได้ขอย้ายไปทำงานที่ จ.เชียงใหม่ โดยให้เหตุผลที่ว่า จะไปทำงานและช่วยหาเงินมาใช้หนี้ซึ่งการย้ายไปจะได้เงินที่เยอะกว่าเดิม โดยทางน้อง แต (นามสมมุติ) ก็ไม่ได้ติดใจอะไรและเห็นในทางที่ดีเผื่อจะได้หาเงินมาช่วยเลี้ยงลูกที่พึ่งคลอด จากนั้นไม่นาน เริ่มมีระหองระแหงกัน ซึ่ง น้อง แต (นามสมมุติ) ต้องเลี้ยงลูกที่เพิ่งคลอดอยู่ที่ จ.น่าน และเริ่มมีการทะเลาะกันบ่อยขึ้น และในช่วงเดือน มกราคา 2567 ที่ผ่านมา ได้พาลูกไปหาหมอที่ จ.เชียงใหม่ และได้ไปหา สามีทหาร กลับพบว่า ในห้องสามีนั้น มีขนตาปลอมของผู้หญิงตกอยู่ในห้อง จึงได้สอบถาม โดยสามีอ้างว่า เป็นของเมียเพื่อนข้างห้องที่ได้จ้างมาทำความสะอาดห้อง หลังจากนั้น น้อง แต (นามสมมุติ) ได้เริ่มสืบ และมีผู้หวังดี ได้มาบอกว่า สามีได้มีผู้หญิงอีกคน โดยทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ และได้ไปรับไปส่งทุกวัน ซึ่งประจบกับการบอกของสามีเมื่อ น้อง แต (นามสมมุติ) ได้โทรหาช่วงหัวค่ำมักจะบอกว่าไม่ค่อยสบาย ปวดหัว เหนื่อย เป็นแบบนี้ทุกวันเรื่อยมา และอีกครั้งสามีได้บอกว่า ติดตามนายขึ้นดอยจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้น มีผู้หวังดีได้ส่งหลักฐานรวมไปถึงน้อง แต (นามสมมุติ) ได้สืบหาหลักฐานจากเฟสบุ๊คของผู้หญิงคนที่แอบมามีสัมพันธ์กับสามีตนจนพบว่าได้ไปกลางเต้นท์อยู่บนดอยโดยจะมีการถ่ายรูปติดมือผู้ชาย รูปกางเต้นท์ รวมไปถึงรูปของใช้ของผู้ชาย ลงบนเฟสบุ๊คและตอรี่ จนตนเองสืบจนมั่นใจแน่ชัดว่า สามีของตนนั้นมีผู้หญิงอื่น ซึ่งตอนนี้ได้ตั้งทนาย ฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อมูลบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอาจเป็นผลต่อรูปคดี
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
0848084888
Discussion about this post