ดร.นิยม เวชกามา อดีต ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้กล่าวถึงกรณีพระศรีสัจญาณมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนพระภิกษุ และ สามเณร พร้อมฆราวาส ที่เข้าไปในเขตอุทยาน ฯ ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาจนนำไปสู่การมอบตัวเพื่อสู้คดีว่าตนติดตามข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของชาวพุทธ โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าพระศรีสัจญาณมุนี และคณะไปล่าสัตว์ตามที่สื่อลง เพราะเท่าที่รู้ ท่านเป็นพระสายกรรมฐาน เป็นพระดี ชอบปลีกวิเวก เป็นถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค เป็น ดร.และเป็นถึงผอ.วิทยาลัยสงฆ์ คงไม่ทำแบบที่ถูกกล่าวหา
ดร.มหานิยม กล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องตั้งหลัก ตั้งสติ ให้ดี ๆ ฟังจากคำแถลงของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้ว รับไม่ได้ ผอ.พุทธชัยภูมิ ทำอะไรอยู่ คุยกับเจ้าคณะปกครองอย่างเดียวไม่พอ ต้องคุยกับรองเจ้าคณะจังหวัด พระเณรที่ไป รวมทั้งชาวบ้านด้วย ซึ่งต้องถามให้ชัดว่าท่านเข้าไปทำอะไร โยมนิมนต์เข้าไปหรือไม่ หรือเข้าปลีกวิเวกเดินป่า เดินธุดงค์อย่างที่ท่านเคยทำหรือไม่ แล้วปืนเอาเข้าไปทำอะไร มันต้องถามให้ชัด มิใช่แถลงข่าวเสมือนทำนองว่าว่าท่านรองเจ้าคณะจังหวัดร่วมขบวนล่าสัตว์ กลายเป็นว่าพระไปล่าสัตว์ แบบนี้คณะสงฆ์เสียหาย พระพุทธศาสนาเสียหาย เรื่องนี้อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนคดีเงินทอนวัด
“จนท.ของสำนักงานพุทธฯมีหน้าที่ดูแลพระ มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ มิใช่ไปซ้ำเติมพระคุณเจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองถามเรื่องนี้จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พร้อมทั้งจะขอร้องให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ไปตรวจสอบอีกทางหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ต้องไปตรวจสอบว่าให้ข่าวเกินจริงหรือไม่ มันต้องเป็นธรรม กับท่านเจ้าคุณ เป็นพระที่ดี เพราะเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์คณะสงฆ์อย่างมาก..”มหานิยม กล่าว
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528
Discussion about this post