ชัยภูมิสภาพอากาศร้อนอบอ้าวและแห้งแล้งอย่างหนักเกษตรกรเริ่มประสบภัยแล้งอย่างหนัก แหล่งน้ำในลำคลองแห้งขอด ฝนทิ้งช่วง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนโอโซนในพื้นที่ อ.เทพสถิตได้รับผลกระทบยืนต้นตายผลผลิตล่วงหล่นเสียหายโดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านน้ำลาด ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ภัยแล้งกระทบอย่างหนักไม่มีน้ำรดสวนทุเรียน ต้นทุเรียนยืนต้นตายผลผลิตล่วงหล่นกว่า 200 ต้นเสียหายนับแสนบาท
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ประสบภัยแล้งหนัก ฝนไม่ตกนานกว่า 2 เดือน อากาศร้อนจัดอุณหภูมิทะลุ 42 องศา ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนซึ่งถือ ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจอีกหนึ่งช่องทาง ใน อ.เทพสถิต ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ลำคลองน้ำแห้งขอด ทุเรียนยืนต้นตายกว่า 200 ต้น เสียหายนับแสนบาท
นายวิทยา นาดี อายุ 63 ปีบ้านเลขที่ 678 ม.1 ต.นายางกลัก เกษตรกรปลูกทุเรียนในพื้นที่ ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ทุเรียนพันธุ์หมอนทองบนเนื้อที่ 8 ไร่ ที่ปลูกไว้อายุกว่า 8 ปี ที่กำลังเติบโต จำนวน 200 ต้น ที่กำลังออกผลผลิต สร้างรายได้ให้กับครอบครัว กำลังยืนต้นตายเกือบทั้งหมด บางต้นมีสภาพต้นแห้งใบแห้งร่วงเหลือแต่กิ่ง บางต้นใบเริ่มเป็นสีเหลืองส่วนยอดบนแห้งตาย นอกจากนั้นผลผลิตที่กำลังจะได้เก็บผลออกขายในอีกไม่กี่เดือนก็พลอยล่วงหล่นเสียหายไปด้วยเช่นกันมูลค่าความเสียหายไม่นอ้ยกว่าแสนบาทเลยที่เดียว
โดยเฉพาะปีนี้แล้งหนักมาก ฝนทิ้งช่วงห่างมานานกว่า 2 เดือนแล้ว บางวันมีก้อนเมฆลอยปกคลุมมืดครึ้มเหมือนฝนจะตกแต่ก็ฝนไม่ตก ตอนนี้เดือดร้อนหนักมากทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ปลูกไว้ทยอยแห้งตายทั้งหมด ตนเองมีสระน้ำอยู่ 1 สระ สูบน้ำรดวันละ 1 ครั้งๆ ละแค่ประมาณ 10 นาที เฉพาะในช่วงเย็นเท่านั้นเนื่องจากน้ำในสระมีไม่เพียงพอ เพราะความแห้งแล้งทำให้น้ำในสระเริ่มแห้งขอดเหลืออยู่เพียงก้นสระเท่านั้น ทำให้ต้นทุเรียนอายุกว่า 8 ปี จำนวน 200 ต้น ขาดน้ำ ทยอยยืนต้นตายเกือบหมดแล้ว หากฝนยังไม่ตกลงมาในเร็วๆนี้ คาดว่าทุเรียนที่กำลังแห้งเหี่ยวใกล้ยืนต้นตายจะตายคงไม่รอดแม้แต่ต้นเดียว จึงขอวิงวอนอยากให้หน่วยงานภาครัฐ เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งทุกปีเมื่อถึงหน้าแล้งจะมีการทำฝนเทียมช่วยเหลือเกษตรกรแต่ในปีนี้ยังไม่เห็นมีฝนเทียมเลย ไม่มีแม้แต่ข่าวว่าจะทำฝนเทียมเลย ทุเรียนที่ยืนต้นตายขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมในเนื้อที่ 8 ไร่ เป็นเงินประมาณ 200,000 บาท คนทำสวนนั้นเหนื่อยมากแล้วต้องมาเจอกับวิกฤติฝนแล้งไม่มีน้ำใช้ ทำให้ความหวังใน ปีหน้าคงไม่มีทุเรียนได้เก็บผลผลิตคงสิ้นหวัง ได้แต่รู้สึกรันทดจิตใจต้องยืนมองต้นทุเรียนที่ปลูกมากับมือยืนต้นแห้งเหี่ยวเฉาตายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งในปีต่อไปก็คงจะต้องหาซื้อสายพันธุ์ทุเรียนมาปลูกทดแทนต้นที่ตายไปอีกก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาภัยแล้งเหมือนเช่นในปีนี้อีกหรือไม่ซึ่งก็ต้องรอดูอีกต่อไป.
วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ
Discussion about this post