จากกรณีทีผู้โพสต์ผ่านโซเชียล “ลูกหลานใครนะคับมาขโมย โทรสัพแม่เพื่อนผมแถว แคราย ใครรู้จัก ติดต่อผมมานะคับ ผมมีรางวัลให้คับ ขอแจ้งเบาะแสพอ ที่เหลือผมจัดการเอง ตอนนี้แจ้งความไปแล้วครับ เอามาคืนดีๆ จะไม่โดนอะไรเลย แต่นี้มึงขโมยไม่พอ มึงยังมาเรียกตังค์อีก “
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านแม่อ้อยขนมจีน น้ำยาป่า น้ำยากระทิ น้ำยาไก่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พบ น.ส เฉลิมพร ยาวิไช อายุ 59 ปีหรือป้าลำใย แม่ค้าขายขนมจีนน้ำยา ซึ่งเป็นผู้เสียหายเล่าว่าเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาเวลาประ มาณ 21.30 น.ได้มีทอมคนหนึ่งเดินมาสั่งขนมจีนน้ำยากับตน 3 ชุดและทอมคนดังกล่าวทำทีเหมือนโทร ศัพท์หาเพื่อนถามว่าเอาขนมจีนน้ำยาไหมเพราะพรุ่งนี้โรงงานหยุดเดี๋ยวไม่มีอะไรกินแล้วทอมได้สั่งขนมจีนน้ำยากับตนทั้งหมด 7 ชุดและขอเข้ามาด้านหลังร้านของตนเพื่อที่จะหยิบผักใส่ถุงเป็นชุดๆ ตนก็ให้เข้ามาอันที่จริงผักอยู่ด้านหน้าร้าน และอีกอย่างร้านจะปิดแล้ว พอเข้ามาตนก็ตักน้ำยาใส่ถุงหยิบขนมจีนใส่ถุงไม่ได้สนใจอะไร พอตนทำเสร็จเอาจนมจีนน้ำยามาวางทอมที่สั่งหายไปแล้ว ตนเดินไปดูโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้ที่ใต้โต๊ะหายไป
ต่อมา ตนได้ขอดูกล้องวงจรปิดร้านค้าข้างร้านของตนดูทอมคนดังกล่าวเดินวนไปมาแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตนไป ซึ่งในโทรศัพท์ตนได้ทำแอปพลิเคชั่นกับทางธนาคารเอาไว้พอวันที่ 28 ตนไปจ่ายของที่ตลาดแม่ค้าที่ตลาดบอกกับตนว่าตนโทรไปยื่มเงิน 500 บาท ซึ่งพอแม่ค้าฟังแล้วไม่ใช่เสียงของตนจึงไม่โอนเงินให้และโทรไปอีกหลายคนและทักมาทางไลน์ทางเฟสบุคลูกสาวลูกชายของตน ซึ่งลูกชายของตนก็อยากได้โทรศัพท์คืนเพราะเบอร์โทรลูกค้าเยอะและทอมคนดังกล่าวบอกกับลูกตนไปว่า ถ้าอยากได่โทรศัพท์มือถือคืนโอนเงินมา 1,500 บาท แล้วจะคืนโทรศัพท์มือถือให้ ซึ่งตนได้ไปแจ้งระงับเบอร์โทรศัพท์แล้วและอยากฝากถึงลูกค้าและแม่ค้าทุกคนว่าถ้ามีคนโทรไปยื้มเงินอย่าให้เพราะไม่ใช่ตน
เบื้องต้นลูกชายของตนเข้าแจ้งความกับพนัก งานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อติดตามคน ร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post