วันที่ 2 พ.ค.67 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สามแลบ อ.สบเมย เปิดเผย กรณี ร้องขอความช่วยเหลือเร่งด่วน กรณีเด็กทุนครูรักษถิ่น ตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า (เลขที่บัญชีถูกเปิดเป็นชื่อน้อง แต่บัญชีไม่ได้อยู่กับน้อง แล้วมิจฉาชีพนำไปหลอกให้ผู้เสียหายที่ต่างๆ โอนเข้าบัญชีทีมีชื่อน้อง โดยที่น้องเขาไม่รู้เรื่อง มาเอะใจอีกทีตอนที่มีหมายเรียกมาถึงบ้านดอย กลายเป็นผู้เสียหาย แต่เมื่อเรื่องเป็นคดีแล้ว จึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อสู้คดี พิสูจน์ความจริง ความบริสุทธิ์ เจตนาหรือไม่ ตามขั้นตอน ของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
โดย น.ส.แยมุย สายชลพิมาน ชาวไทยชนเผ่ากะเหรี่ยงจากหมู่บ้านกลอเซโล ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า ลูก สาวตนเป็นผู้เสียหายจากแก็งค์หลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้เป็นบัญชีม้า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งขณะนั้นลูกสาวอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่อง สอน ขณะนั้นลูกสาวต้องการมีรายได้จึงหางานผ่านโทรศัพท์ ในช่องทาง facebook โดยได้แชตคุยกับเพจชื่อว่า Lovely Day ซึ่งบอกว่ามีงานให้ทำ เริ่มจากแนะนำให้ลูก สาวโหลดแอปพลิเคชั่นของธนา คาร CIMB และกรุงศรีอยุธยา ซึ่งลูกสาวก็ทำไปตามขั้นตอนที่เขาบอก แต่เมื่อเปิดบัญชีได้แล้วหลังจากนั้นก็ถูกบล็อกบัญชี ต่อมาก็เริ่มได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจต่างๆ หลายจังหวัด ว่ามีผู้ถูกหลอกยืมเงินแล้วโอนไปที่บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของลูกสาว ซึ่งหมายดังกล่าวส่งมาจาก สภ.แม่ เมาะ จ.ลำปาง สภ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร สน.นครบาลสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี สภ.เมืองเพชร บูรณ์ และสภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เป็นต้น
อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบวิธีการทางออนไลน์ สอบสวนและให้ความเป็นธรรมแก่ลูกสาวตนด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ตอนนี้ลูกสาวได้รับทุน กสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ครู(รักษ์)ถิ่น และก่อนหน้านี้ได้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่กลับถูกหลอกลวงขณะนี้บัญชีธนาคารถูกอายัด จึงขอให้ช่วยเหลือด้วยเพราะไม่สามารถใช้เงินที่กู้(กยศ.) มาไปเรียนได้
โดย นางสาวเอ(นามสมมุติ) เหยื่อแก็งค์หลอกลวงทางออนไลน์ กล่าวว่าตนเองกังวลใจกับเรื่องคดี หมายเรียกที่มาจากหลายจังหวัดทั้งที่ตนก็ไม่รู้จัก ไม่เคยไป ไม่มีเงินที่จะไปด้วย “ซึ่งพ่อของหนูมารู้เรื่องคดีนี้ เกิดความเครียดมากจนฆ่าตัวตายเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เปิดบัญชีไม่เคยได้ใช้หรือรับเงินใดๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าเงินเข้าออกอย่างไร หนูเสียใจเรื่องพ่อที่เสียชีวิตไป และเครียดมาก ไม่เคยรู้กระบวนการนี้เป็นการหลอกลวง และ“มีหมายเรียกส่งมา ครูที่โรงเรียน (ในขณะนั้น) ก็พาไปหาตำรวจที่ สภ.แม่สะเรียง แต่ก็มีหมายเรียกส่งมาอีกหลายหมายมาก มีหมายเรียกส่งไปรษณีย์มาที่บ้าน พ่อถามว่าไปทำอะไรมา หนูบอกว่าหนูโดนหลอกให้เปิดบัญชี แต่หนูไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ” นางสาวเอกล่าว
ล่าสุด นายพงษ์พิพัฒน์ โดยมีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สามแลบ อ.สบเมย กล่าวว่าเมื่อทราบเรื่องตนได้พาน้องเยาวชนและแม่ ไปพบหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบ ครัว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด แม่ฮ่องสอน (พมจ.) ต่อมาได้พาไปขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกองทุน ในการช่วยเหลือเรื่องคดีและในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยหวังว่าจะเป็นอุทธาหรณ์ว่าผลกระทบจากภัยของอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ขนาดที่คนอยู่บนดอยก็ถูกหลอกได้ และในกรณีนี้ต้องการให้น้องเยาวชนได้รับการช่วยเหลือและสามารถศึกษาต่อพร้อมทั้งรับทุนครูรักษ์ถิ่น ของกสศ. เพื่อให้มีความรู้กลับมาสอนหนังสือให้เด็กๆ นักเรียนในพื้นที่ อ.สบเมย ต่อไป
ด้าน ศาสนาจารย์ ดร. ทองทิพย์ แก้วใส ประธานศูนย์ปกป้องสิทธิเด็กและเยาวชน แม่สะเรียง- แม่ลา น้อย (ศปดย.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตอนนี้พยายามหาหนทางในการช่วยน้องอย่างเต็มที่ เนื่องจาก น้องได้ทุน กสศ. ครู(รักษ์)ถิ่น แล้ว แต่มาติดเรื่องคดี อยากจะช่วยน้อง ไม่อยากให้น้องเสียโอกาสทางการศึกษา ซึ่งทางกองทุน กสศ.ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วยังไม่ได้ตัดทุนของน้องออก จึงจำเป็นต้องเร่งช่วยเหลือน้องอย่างเร่งด่วนเพื่อให้น้องได้มีโอกาสทางการศึกษาต่อไป.
สุกัลยา บัวงาม อ,แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
Discussion about this post