วันที่ 3 พ.ค.67 ที่บริเวณชั้นล่างอาคารแสงสิงแก้ว ตำรวจภูธรนครพนม ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.(ญ)จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง จ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางเฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน189 แท่ง น้ำหนักประมาณ 70 กิโล กรัม รถเก๋งยี่ห้ออีซูซุ
โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ต่อเนื่องวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม/ตรวจยึด ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลำ เลียงยาเสพติด (เฮโรอิน) ไปส่งให้กับลูกค้ายังฟื้นที่ตอนใน โดยใช้เส้นทางอำเภอโพนสวรรค์ อำเภอกุสุมาลย์ เขต อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย รถเก๋ง ยี่ห้อ Mazda รุ่น Mazda2 จอดอยู่ริมถนนหน้า อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จึงได้หยุดรถยนต์พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งชายที่อยู่ในรถยนต์ คันดังกล่าว ยังไม่ไหวตัว สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อคือนายพัลลภ ฯ
ตรวจสอบภายในรถยนต์รถยนต์พบถุงดำบรรจุกล่อง จำนวน 2 ใบเปิดออกดูพบเป็นเฮโรอิน จำนวน189 แท่งๆละประมาณ 370 กรัม รวมน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม มูลค่า 76,600,000 บาท ผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลัง จำนวน 3 คน คือ นายพัลลภ อายุ 36 ปี ต.หนองบัวใหญ่ อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ นายวีระศักดิ์ อายุ 33 ปี ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ นางสาวอรัญญา อายุ 31 ปี ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำ หน่ายยาเสพติดประเภท 1 (เฮโรอิน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประ เภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
จากการสอบถามนายพัลลภฯ ยอมรับว่า มารับยาเสพติดจริง และยังมีรถนำอีกหนึ่งคัน ยี่ห้ออีซูซุ ซึ่งเป็นรถนำทาง เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปที่จังอหวัดสกลนคร พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดภาย ในบริเวณ ข้ามทางเข้าท่าอากาศยานสกลนคร พบนายวีระสักดิ์ ฯ และน.ส.ธนัญญา ฯ จึงได้เชิญตัวมาที่ กก.สืบสวน ฯ ซึ่งทั้งสองคนยอมรับว่า เดินทางมาพร้อมกับนายพัลลภ ฯจริงเพื่อมารับยาเสพติด(เฮโรอิน) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้ โดย เป็นเงินจำนวน 100,000บาท เมื่อเสร็จงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลติดตามผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า ภูมิประเทศของภาคอีสานที่ติดแม่น้ำโขงมีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ที่มีช่องทางธรรมชาติเอื้ออำนวยต่อการลักลอบนำเข้ายาเสพติดได้ง่าย ทั้งเส้นทางคมนาคมไม่เหมือนภาคเหนือที่ถูกบังคับด้วยภูเขา แต่ภาคอีสานเส้นทางคมนาคมจะเป็นเส้นใยแมงมุมทำให้ง่ายต่อการหลบหลีก หลบหนีของขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด ประกอบกับภาคเหนือมีการเข้มงวดมาอย่างยาวนานในการปราบปรามยาเสพติด ทำนักค้าเปลี่ยนมาใช้เส้นทางภาคอีสานมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย และนครพนม
สำหรับเฮโรอีนล็อตนี้จากการข่าวเบื้องต้นพอทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มแก๊งไหน เครือข่ายของใคร ทำให้รู้ว่าล็อตนี้ไม่ได้นำมาใช้ในประเทศแต่จะส่งออกไปยังประเทศที่สามผ่านลงไปยังจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งตอนนี้ทางชุดสืบสวนกำลังขยายผลหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพราะคนที่จับได้เป็นเพียงมือขนแต่นายทุนหรือตัวจริงยังมีอยู่ ส่วนราคาขายนั้น จากการได้พูดคุยกับทาง ป.ป.ส.70 กิโลกรัมที่จับได้ถ้าอยู่ในประเทศราคาประมาณ70 ล้านบาท แต่ถ้าหลุดออกไปต่างประเทศได้จะอยู่ที่ 700 ล้านบาทเลยทีเดียว.
Discussion about this post