จากกรณีนางชาดา วาทนเสรี อายุ 48 ปี เดินทางนำเอกสารเข้าขอความช่วยเหลือกับนางสาวธนิดา ชแจ้งจำรัส หรือทนายนินู หลังจากสามีชื่อนายปรีชา วาทนเสรี อายุ 46 ปี พนักงานฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตดุสิต กทม.ได้เสียชีวิต หลังมีอาการปวดหัวขั้นรุนแรง จนเดินไม่ได้เวียนหัวบ้านหมุน และอาเจียน เดินทางไปโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ขอแพทย์สแกนสอมองปต่ถูก ปฏิเสธและให้ยากลับบ้าน ผ่านไป 1 วัน สามีเกิดอาการชักเกรง หมดสติ ปัสสาวะราด ปลุกไม่ตื่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าวเข้ารักษาตัว แพทย์จึงยอมแสกนสมอง พบว่าเลือดออกในชั้นเยื้อหุ้มสอง ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 10 ม.ค.67 ที่โรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 ที่ แพทยสภา อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู พร้อมด้วยนางชาดา วาทนเสรี อายุ 48 ปี นำเอกสารยื่นร้องเรียนจริยธรรมแพทย์โรงพยาบาลดังกล่าว ที่ทางผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าขอเข้ารักษาในวันที่ 6 – 7 ม.ค.67 ซึ่งเป็นแพทย์หญิง 1 ราย และแพทย์ชาย 1 ราย
ทนายนินู กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำเอกสารเข้ายื่นร้องเรียนจริยธรรมแพทตยสภา กับทางแพทย์โรงพยาบาลดังกล่าว 2 ราย มีแพทย์หญิง 1 ราย และแพทย์ชาย 1 ราย เพื่อให้ทางแพทยสภาวินิจ ฉัยจริยธรรมและคุณธรรม ของผู้ประกอบอาชีพแพทย์ ในเบื้องต้นหลังจากยื่นเรื่องไปแล้ว ต้องรอระยะเวลาประมาณ30วันในการวินิจฉัย อย่าง ไรก็ตามทางตนก็จะดำเนินการตามข้อกฎหมายเพื่อช่วยเหลือทางผู้เสียหายต่อไป
นางชาดา กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมากหลังจากที่นำเรื่องร้องเรียนกับทนายนินู ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนไม่รู้เรื่องเรื่องกฎหมายใดใดทั้งสิ้นเคยโพสต์ เรื่องราวผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กหลายกลุ่มไปแล้วแต่ไม่มีใครเห็นเลยไม่รู้จะดำเนินการยังไงต่อ เพราะตนเป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องกฎ หมาย ตอนนี้ก็สบายใจมากขึ้น เบื้องต้นได้ไหว้รูปสามีที่ตั้งอยู่ภายในบ้านทุกวันว่าตนได้ดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมให้แล้ว หลับให้สบาย ทางนี้ตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด.
Discussion about this post