ผู้ว่าฯ นราธิวาส อํานวยพรแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจําปี 2567 ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ขอให้มีความปลอดภัยและได้ฮัจย์ที่สมบูรณ์

วันนี้ 13 พ.ค.67 เวลา10.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพรแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจําปี 2567 ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส อําเภอเมืองนราธิวาส โดยบินตรงจากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองมาดีนะห์ สู่ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน และนายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และญาติพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่มาร่วมส่งผู้แสวงบุญ ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น

โดยเที่ยวบินแรก ของการจัดพิธีส่งและอำนวยพรแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจําปี 2567 ของจังหวัดนราธิวาส ในวันนี้ (13 พ.ค. 67) เที่ยวบินที่ TG8814 ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนราธิวาส ในเวลา 11.17 น. มีผู้โดย สารในไฟล์ททั้งสิ้น 289 คน และเที่ยวบินที่สองที่ TG8816 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนราธิวาส ในเวลา 14.00 น. มีผู้โดยสารในไฟล์ท ทั้งสิ้น 290 คน

สำหรับปี 2567 มีผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ผ่านท่าอากาศยานนราธิวาส โดยสายการบิน ไทย บินตรงจากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 5 เที่ยวบิน ในระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2567 จำนวนทั้งสิ้น 1,449 คน

ซึ่งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมอำนวยความสะดวกในการเดินทางในปีนี้ (2567) มีผู้ลงทะเบียนเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของชาวไทย 7,738 คน เป็นประชาชนใน 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ 3,658 คน (คิดเป็นร้อยละ 47.27) เป็นชาวจังหวัดยะลา 1,142 คน ปัตตานี 1,570 คน และนราธิวาส 946 คน

โอกาสนี้ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราช การจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวอำนวยพรให้พี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้รับผลบุญ มีความสุข ความปลอดภัย ตลอดการเดินทางและช่วงที่ปฏิบัติศาสนกิจ อยู่ในประเทศซาอุดี อาระเบีย ทั้งนี้ทางภาครัฐเองพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์เพื่อให้ทุกท่านได้ ฮัจย์ที่สมบูรณ์ พร้อมขอให้ท่านเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ ด้วยความสวัสดิ ภาพ ซึ่งพี่น้องมุสลิม ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของไทยในการทำหน้าที่เป็นทูตสันติภาพ เพื่อสร้างสันถว ไมตรีระหว่างประเทศ ไทยและซาอุดีอาระเบียด้วย.