![](https://i0.wp.com/www.talknewsonline.com/wp-content/uploads/2024/05/1716453408276.jpg?resize=640%2C620&ssl=1)
นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ตามที่กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดพิธีมอบแบบผ้าลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้า
แฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน ” และได้ดำเนินการส่งมอบแบบลายผ้าพระราชทานให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ทั่วประเทศได้นำไปสร้างสรรค์ผลงาน สร้างอัตลักษณ์ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น และนำไปสู่การพัฒนาด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายของใช้ ของประดับตกแต่ง ตามแนวพระดำริ
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับเข้าสู่ชุมชน และส่งเสริม กระตุ้น ผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากลเป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาสและเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผ้าไทยแต่ละประเภทให้เป็นที่รู้จักผ่านการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์” และงานหัตถกรรม ตลอดทั้งเพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้สืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทย โดยจัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์”และงานหัตถกรรม ประจำปี 2567 ขึ้น
โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะส่งผ้าเข้าประกวด ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP หรือช่างทอผ้าทั่วไป ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดแพร่ เงื่อนไขการส่งผ้าเข้าประกวด ผู้ส่งผ้าลายพระราชทานเข้าประกวด ให้ส่งตามภูมิสำเนาที่ผลิตผ้า และต้องเป็นผ้าทอมือ หรือทำจากมือเท่านั้น โดยไม่รับพิจารณาผ้าที่ทอจากกี่กระตุกหรือระบบอุตสาหกรรม , ผ้าที่ส่งเข้าประกวด ต้องมีขนาดความกว้าง x ยาว ไม่น้อยกว่า 1 x 1.8 เมตร (2 หลา) กรณีผ้าจก/ผ้าตีนจก ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 1 x 0.25 เมตร กรณีผ้าปักมือ ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 30 x 30เซนติเมตร ใช้เทคนิคการปักด้วยมือบนผืนผ้า ผ้าพื้นใช้เส้นใยธรรมชาติ และเส้นด้าย
ที่ใช้ปักให้ใช้ไหมธรรมชาติที่ย้อมจากสีธรรมชาติ ผ้ากลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง ลาวครั่ง ไทลื้อ หรือชาติพันธุ์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย มีหน้าผ้ากว้างไม่ต่ำกว่า 90 เซนติเมตร และความยาวรวมไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร , ต้องเป็นผ้าที่ตัดจากกี่ โดยไม่ผ่านการซัก อบ รีด หรืออาบน้ำยาเคมีใดๆทั้งสิ้น (Authentic) ยกเว้นผ้าบาติก/ผ้าพิมพ์ลาย/ผ้ามัดย้อม และไม่รับพิจารณาผ้าที่เย็บเป็นถุง/เย็บริมผ้าด้วยจักร ยกเว้นการสอยผ้าด้วยมือ , เส้นใยที่ใช้ทอ หรือผลิตผ้า ในกรณีเป็นประเภทผ้าบาติก/พิมพ์ลาย/มัดย้อม ต้องเป็นไหมพันธุ์พื้นบ้าน หรือผ้ายเย็บมือ หรือเส้นใบไหมที่เป็นเส้นใยแท้ (ไหมพันธุ์พื้นเมือง)หรือเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ กรณีที่ไม่สามารถปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ ให้ระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบอย่างละเอียด , ใช้สีธรรมชาติ และให้
ระบุกระบวนการย้อมสีและสูตรที่ใช้ในการย้อมสีธรรมชาติอย่างละเอียด , ผ้าปัก ผ้าพื้นใช้เส้นใยธรรมชาติและเส้นด้ายที่ใช้ปักให้ใช้
ไหมธรรมชาติที่ย้อมจากสีธรรมชาติ
สำหรับผ้าที่ส่งเข้าประกวดประเภทผ้าบาติก/ผ้ามัดย้อม อนุโลมให้ใช้ไหม หรือฝ้ายที่ทอจากระบบอุตสาหกรรม แต่ต้องเป็นไหมหรือฝ้ายแท้เท่านั้น , การส่งผ้าหรืองานหัตถกรรมเข้าประกวดในรอบระดับภาคให้บรรจุได้ตามความเหมาะสมหรือพร้อมแนบใบสมัคร เช่น บรรจุผ้าลงในถุงซิปใส หรือม้วนพร้อมแนบใบสมัคร เป็นต้น , ในการรับสมัครระดับจังหวัด ให้ผู้สมัครส่งผลงานผ้าหรืองานหัตถกรรมให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด พร้อมกรอกแนวคิดในการทำบรรจุภัณฑ์และเรื่องเล่า ในใบสมัคร โดยยังไม่ต้องส่งบรรจุภัณฑ์จริง
ทั้งนี้หากชิ้นงานผ่านเข้ารอบระดับประเทศ ผู้สมัครต้องส่งบรรจุภัณฑ์จริง และเรื่องเล่า มาเพิ่มเติม เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาให้คะแนนในลำดับต่อไป โดยผู้ประกวดผ้าลายพระราชทานและงานหัตถกรรม ส่งใบสมัครเข้าประกวดผ้าและงานหัตถกรรม ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 15 สิงหาคม 2567 , ผู้เข้าประกวดผ้าลายพระราชทาน และงานหัตถกรรม ส่งผ้าหรืองานหัตถกรรม พร้อมแนวคิดในการทำบรรจุภัณฑ์และเรื่องเล่า ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2567
สอบถามรายละเอียดได้ที่
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน โทร 054-511-243
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post